สกนช. เผยแผนปฏิบัติการสร้างเสถียรภาพราคาพลังงานในช่วงปี 2566 ทั้งน้ำมันกลุ่มดีเซล เบนซิน และก๊าซ LPG โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลค่าครองชีพประชาชนตามนโยบายรัฐ แม้สถาพคล่องจะดีขึ้นแต่ยังคงติดลบสูงคาดสิ้นปีติดลบ 8 หมื่นล้าน ยันตรึงดีเซลต่อขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐเป็นสำคัญ
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง( สกนช.) เปิดเผยว่า ปี 2566 สกนช.ได้ปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ภายใต้การรับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) และนโยบายคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเชื้อเพลิงโดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ ในการดูแลค่าครองชีพประชาชน และเศรษฐกิจ
สำหรับการบริหารจัดการราคาขายปลีกของกลุ่มดีเซลในปี 2566 กบน. มีมติปรับลดราคาขายปลีกดีเซลไปแล้วรวม 7 ครั้ง จากราคา 35 บาท/ลิตร มายืนระยะที่ 32 บาท/ลิตรในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และปัจจุบันราคาลดลงมาอยู่ที่ 29.94 บาท/ลิตร จากผลของมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 เริ่มวันที่ 20 กันยายน -31 ธันวาคม 2566 โดยใช้กลไกลดภาษีสรรพสามิตลง 2.50 บาท/ลิตร และกลไกกองทุนน้ำมันฯ ในการรักษาราคาขายปลีก
การรักษาระดับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ได้ทยอยปรับราคาจาก 408 บาท/ถัง 15 กก. เป็น 423 บาท/ถัง 15 กก. โดยมีผลวันที่ 1 มีนาคม 2566 เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และล่าสุด มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ก็ยังคงให้ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ LPG อยู่ที่ 423 บาท/ถังขนาด 15 กก. ตั้งแต่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2567 เนื่องจากราคา LPG ยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกซึ่งจะกระทบต่อราคาสินค้าและบริการในประเทศส่งผลต่อเนื่องถึงค่าครองชีพของประชาชน
นอกจากนี้มติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 31 ตุลาคม 2566 เห็นชอบแนวทางการลดค่าครองชีพประชาชนตามที่กระทรวงพลังงานเสนอลดราคาแก๊สโซฮอล 91 ลง 2.50 บาท/ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน โดยใช้กลไกลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน 1 บาท/ลิตร พร้อมใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนเพื่อทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ลดลงรวม 2.50 บาท/ลิตร โดยที่ประชุม กบน. ได้ดำเนินการปรับลดราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซิน ให้มีผลตั้งแต่ 7 พฤศจิกายน 2566 – 31 มกราคม 2567 โดยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ลดลง 2.50 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 1 บาท/ลิตร ส่วน E20 และ85 ลดลง 80 สตางค์/ลิตร
แหล่งข่าวจากกบน. กล่าวว่า ฐานะสุทธิกองทุนน้ำมันฯ ณ 10 ธ.ค. 66 ติดลบ 78,760 ล้านบาทแบ่งเป็นบัญชี น้ำมันติดลบ 32,708 ล้านบาท บัญชีLPG ติดลบ 46,052 ล้านบาท โดยจากระดับราคาน้ำมันที่อ่อนตัวจากที่เคยประเมินไว้ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯสิ้นปี 2566 คาดว่าจะอยู่ในระดับติดลบ 80,000 ล้านบาทซึ่งต่ำกว่าที่เคยประเมินว่าจะติดลบ 100,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามแม้ว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น แต่ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันยังติดลบอยู่เป็นจำนวนมากทำให้ยังคงต้องติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกใกล้ชิดที่ยังคงมีความผันผวนสูง
“ สกนช. ได้รับอนุมัติจากครม.ในการกู้ยืมเป็นจำนวน 150,000 ล้านบาท โดยบรรจุเป็นหนี้สาธารณะของประเทศไปแล้ว 110,000 ล้านบาท ปัจจุบัน สกนช. ทำการกู้เงินและใช้ไปแล้วรวม 65,000 ล้านบาท และยังเหลือวงเงินราว 40,000 ล้านบาทซึ่งหากรัฐจะต่อมาตรการตรึงดีเซลออกไปอีกหากไม่ใช้กลไกภาษีสรรพสามิตมาช่วยก็จะดูแลได้แค่ 1 เดือนเท่านั้นจึงอยู่ที่นโยบายรัฐบาลเป็นสำคัญ”แหล่งข่าวกล่าว