กทท.เปิดประมูลสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ถนน “แหลมฉบังเฟส 3” ปรับราคากลางเป็น 7.42 พันล้านบาท จับตาเคาะราคา 15 ธ.ค. 66 ส่วนงาน "ระบบรถไฟและไอที" วงเงินรวมกว่า 3 พันล้านบาท คาดประมูลใน เม.ย. 67
นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้างานโครงสร้างพื้นฐานโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ว่า โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 กทท.จะต้องดำเนินการส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 4 งาน โดยงานส่วนที่ 1 การก่อสร้างทางทะเล เป็นงานขุดลอกถมทะเล สร้างเขื่อนกันคลื่นวงเงิน 21,320 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยจะแล้วเสร็จในวันที่ 24 มิถุนายน 2569
งานส่วนที่ 2 งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนนและระบบสาธารณูปโภค งบประมาณ 7,425 ล้านบาท ขณะนี้ กทท.อยู่ระหว่างประกาศประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยให้ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 15 ธ.ค. 2566
ที่เหลือ คือส่วนที่ 3 งานก่อสร้างระบบรถไฟ งบประมาณ 799.5 ล้านบาท และส่วนที่ 4 งานจัดหา ประกอบและติดตั้งอุปกรณ์สำหรับขนย้ายสินค้า พร้อมออกแบบและติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับบริหารท่าเรือระบบโครงสร้างพื้นฐาน งบประมาณ 2,257.84 ล้านบาท อยู่ระหว่างปรับร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference : TOR) คาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ในเดือน เม.ย. 2567
รายงานข่าวแจ้งว่า กทท.ได้ประกาศประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานจ้างเหมาก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 (ส่วนที่ 2) งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ถึง 14 ธันวาคม 2566 ราคากลาง 7,387.518 ล้านบาท กำหนด (e-bidding) โดยให้ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 15 ธ.ค. 2566 เวลา 13.00-16.00 น.
สำหรับ TOR กำหนดคุณสมบัติ ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างและเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่การท่าเรือฯ เชื่อถือได้ โดยต้องมีผลงานก่อสร้างท่าเทียบเรือทางทะเลในประเทศไทย ไม่รวมเครื่องมือยกขน สัญญาเดียวมูลค่าก่อสร้างไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และเป็นผลงานที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในระยะเวลา 10 ปี
เงื่อนไขทุนจดทะเบียนของผู้ยื่นข้อเสนอ กรณีเป็นนิติบุคคลรายเดียวต้องมีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระเต็มแล้วไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท กรณีเป็นกิจการร่วมค้า สมาชิกของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายต้องมีทุนจดทะเบียน ซึ่งชำระเต็มแล้วไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
โดยผู้ยื่นข้อเสนอในรูปแบบของ "กิจการร่วมค้า" นั้น กรณีตกลงมีผู้ร่วมค้าหลัก จะต้องมีการกำหนดสัดส่วนหน้าที่ และความรับผิดชอบในปริมาณงาน สิ่งของ หรือมูลค่าตามสัญญาของผู้เข้าร่วมค้าหลักมากกว่าผู้เข้าร่วมค้ารายอื่นทุกราย, ต้องใช้ผลงานของผู้เข้าร่วมค้าหลักรายเดียวเป็นผลงานของกิจการร่วมค้าที่ยื่นข้อเสนอ
หลักเกณฑ์และสิทธิในการพิจารณา ใช้เกณฑ์ราคา เนื่องจากการจัดจ้างครั้งนี้ต้องการผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณภาพและคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อท่าเรือแหลมฉบังมากที่สุด จึงกำหนดเป็นเงื่อนไขทางเทคนิค เพื่อคัดเลือกผู้เสนอราคาที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำตามกำหนด 1. การบริหารจัดการและแผนงานโครงการ 20 คะแนน 2. บุคลากร 20 คะแนน 3. เครื่องจักรก่อสร้าง 20 คะแนน 4. วิธีการก่อสร้าง 40 คะแนน โดยจะต้องได้คะแนนในแต่ละหัวข้อไม่น้อยกว่า 70% และเมื่อรวมคะแนนทุกหัวข้อแล้ว จะต้องไม่น้อยกว่า 80% จึงจะถือว่าผ่านการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค เพื่อทำการพิจารณาข้อเสนอด้านราคาต่อไป
เดิมงานส่วนที่ 2 มีราคากลางที่ 6,502 ล้านบาท แต่มีการปรับวงเงินเนื่องจากมีภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนราคาน้ำมัน เหล็กและวัสดุก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้องปรับเพิ่มวงเงินเป็น 7,289.43 ล้านบาท และออกประกาศประกวดราคาเมื่อเดือน พ.ย. 2565 แต่ก็ต้องยกเลิกประกวดราคาไป และเปิดประกวดราคาครั้งที่ 2 ปรับราคากลางเป็น 7,387.518 ล้านบาท
ส่วนงานที่ 3 งานก่อสร้างระบบรถไฟ เดิมวงเงิน 600 ล้านบาท ปรับใหม่เป็น 799.50 ล้านบาท และ 4. งานจัดหา ประกอบและติดตั้งเครื่องจักรและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เดิมวงเงินประมาณ 2,200 ล้านบาท ปรับใหม่เป็น 2,257.84 ล้านบาท