วันที่ 5 ธันวาคม 2566 เวลา 00.35 น. ได้เกิดเหตุการณ์รถโดยสารปรับอากาศ (รถทัวร์) กรุงเทพฯ-นาทวี เสียหลักตกไหล่ทางชนต้นไม้ที่บริเวณถนนเพชรเกษม ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 35 ราย และมีผู้เสียชีวิต 14 ราย นั้น
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้ที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์รถโดยสารปรับอากาศเสียหลักตกไหล่ทางชนต้นไม้ บริเวณถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ใกล้ทางเข้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก พร้อมรีบสั่งการให้นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้โดยสารที่เป็นผู้ประกันตนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตให้ได้รับสิทธิประโยชน์โดยเร็ว
ด้านนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้มอบหมายให้ นางสาวอังสุมาลี ยอดยิ่งวิทยา นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนประกันสังคมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบข้อมูลว่า รถทัวร์คันดังกล่าว มีผู้โดยสารทั้งหมด 49 ราย ได้รับบาดเจ็บ 35 ราย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัย และมูลนิธินำส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้ประกันตน จำนวน 5 ราย ดังนี้
1. นางสาว THIDAR MON (พม่า) เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33
2. นายสมศักดิ์ มากเอียด เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33
3. นางสาวนพวรรณ จันทเลิศ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33
4. นางสาวมนทิรา ทองคำ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33
5. นายกิตติศักดิ์ ดำหนูอินทร์ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33
ผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทับสะแก จำนวน 3 ราย ดังนี้
1. นาย HLA WIN (พม่า) เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33
2. นายหมัดอาสัน หมัดแสะ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33
3. นายอนุชา บุญมาเลิศ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33
จากการตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 14 ราย เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 , 39 และ 40 จำนวน 9 ราย ทายาทมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน มีรายชื่อดังนี้
1. นางสาวยุวดี สุรรณอินทร เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับสิทธิประโยชน์ค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย 90,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ 99,810.78 บาท
2. นายมัณฑนธาดา สุจริตธุรการ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับสิทธิประโยชน์ค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย 30,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ 54,306.77 บาท
3. นางสาวอัญชลี แฝงจันดา เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับสิทธิประโยชน์ค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย 65,400 บาทและเงินบำเหน็จชราภาพ 89,993.96 บาท
4. นางสาวมณฑิรา ดีมา เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้รับสิทธิประโยชน์ค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย 9,600 บาทและเงินบำเหน็จชราภาพ 34,553.35 บาท
5. นายสุทธิรักษ์ ศิริมนตรี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับสิทธิจากกองทุนเงินทดแทน ซึ่งเสียชีวิตเนื่องจากการทำงานขณะขับรถให้บริษัท ศรีสยามเดินรถ จำกัด มีค่าทำศพ 50,000 บาท ค่าทดแทนรายเดือนระยะเวลา 10 ปี เงินบำเหน็จชราภาพ 41,683.26 บาท
6. นายสมบูรณ์ เหล็มเนียม เป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้รับสิทธิประโยชน์ค่าทำศพ 25,000 บาท และเงินชราภาพ 1,050 บาท
7. พระอัฏฐ์ชานัช กะนะหาวงศ์ เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้ว ได้รับสิทธิประโยชน์เงินชราภาพ 19,110 บาท
8. นางสาวละมัย คงใหม่ เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้ว ได้รับสิทธิประโยชน์ เงินชราภาพ 4,113.30 บาท
9. นายเฉลิมวุฒิ จันทร์คำ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับสิทธิประโยชน์ค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย 24,720 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ 71,264.75 บาท
สำหรับผู้ประกันตนที่เสียชีวิต ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ดำเนินการประสานติดตามทายาทผู้มีสิทธิให้มาติดต่อขอรับประโยชน์ทดแทน เพื่อจะได้วินิจฉัยสั่งจ่ายประโยชน์ทดแทนต่อไป ทั้งนี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้มอบหมายให้นางสาวอังสุมาลี ยอดยิ่งวิทยา นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนประกันสังคมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และที่โรงพยาบาลทับสะแก จำนวน 8 ราย เพื่อให้ความช่วยเหลือ พร้อมชี้แจงสิทธิประโยชน์กรณีประสบอุบัติเหตุหรือ เจ็บป่วยฉุกเฉิน รวมถึงได้ประสานโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาล เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องต่อไป.