กรมทางหลวงจี้ผู้รับเหมาเพิ่มคนและเครื่องจักร เร่งงานปรับปรุงถนนวงแหวนฯ ด้านตะวันตก ช่วงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-บางแค 6.5 กม.ให้เสร็จใน พ.ค. 67 หลังพบยังล่าช้า 8% โดยได้ขยายสัญญาจากโควิดอีก 1 ปี 7 เดือน
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงกำลังเร่งรัดโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) ช่วงพระประแดง-บางแค ระหว่าง กม. 15 + 217.000 ถึง กม. 21 + 803.000 ซึ่งเป็นการก่อสร้างบูรณะปรับปรุงผิวจราจรในช่องทางหลักขนาด 6 ช่องจราจร (ไป-กลับ ข้างละ 3 ช่องจราจร) ช่วงตั้งแต่ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน ถึงทางแยกต่างระดับบางแค รวมระยะทาง 6.58 กม.
โดยปัญหาหลักของโครงการฯนอกจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีปัญหาขาดแรงงานแล้ว การที่ต้องก่อสร้างบนถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) ซึ่งมีปริมาณจราจรสูงถึง 1.8 แสนคัน/วัน โดยเป็นรถบรรทุกถึง 35-40% ดังนั้นจึงต้องปิดการจราจรและทำงานในช่วงกลางคืนเป็นหลัก ประกอบกับใช้รูปแบบถนนคอนกรีตที่เหมาะสำหรับถนนที่มีปริมาณจราจรสูง โดยเฉพาะรองรับรถขนาดใหญ่ได้ดี มีอายุการใช้งานนาน แต่ต้องใช้เวลาก่อสร้างมากกว่า อย่างไรก็ตาม ได้เร่งรัดผู้รับจ้างให้ก่อสร้างให้แล้วเสร็จในเดือนพ.ค. 2567
ข้อมูลจากสำนักก่อสร้างทางที่ 1 แจ้งว่า งานก่อสร้างบูรณะปรับปรุงผิวจราจรทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) ช่วงตั้งแต่ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน ถึงทางแยกต่างระดับบางแค มีบริษัท สหการวิศวกร จำกัด เป็นผู้รับจ้าง มูลค่างาน 513.98 ล้านบาท (ค่าปรับ วันละ 1.284 ล้านบาท) เริ่มต้นสัญญาวันที่ 1 ตุลาคม 2563 สิ้นสุดวันที่ 20 ตุลาคม 2565 (ระยะเวลาก่อสร้าง 750 วัน) ต่อมามีการแก้ไขสัญญาคิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 0 เป็นระยะเวลา 638 วัน ตามมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ของรัฐบาล เริ่มต้นสัญญาวันที่ 21 ตุลาคม 2565 สิ้นสุดวันที่ 19 กรกฎาคม 2567
โดยผลงานก่อสร้าง สิ้นสุดเดือนตุลาคม 2566 มีความก้าวหน้า 67.737% ยังล่าช้ากว่าแผน 7.980%
สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการก่อสร้างโครงการ คือ 1. เนื่องจากเส้นทางช่วงพระประแดงถึงบางแค มีปริมาณการจราจรหนาแน่นมาก โครงการฯ จึงกำหนดให้ผู้รับจ้างก่อสร้างทางเบี่ยงและปิดเบี่ยงจราจรเพื่อก่อสร้างข้างละ 1 ช่องจราจร และให้ปฏิบัติงานเฉพาะในเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 22.00 ถึง 05.00 น. เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่สัญจรผ่านเส้นทาง ขณะนี้มีแนวทางแก้ไขคือ ผ่อนผันให้ผู้รับจ้างปฏิบัติงานในเวลากลางวันช่วง 08.30 ถึง 16.30 น. เฉพาะในพื้นที่ช่องจราจรที่ปิดกั้น Barrier ไว้เท่านั้นเพื่อมิให้กระทบการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน
2. โครงการฯ มีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งได้มีการเร่งรัดดำเนินการตามมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ของรัฐบาล ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
3. ผู้รับจ้างมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรก่อนที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประชุมเร่งรัดผู้รับจ้างให้จัดหาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญวางแผนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ผู้รับจ้างไม่สามารถบริหารเครื่องมือเครื่องจักรในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพได้
5. ประสบปัญหาขาดแคนพนักงานขับและควบคุมเครื่องจักรที่มีประสบการณ์ นอกจากนี้ยังพบว่าผิวจราจรที่ยังไม่ได้ทำการก่อสร้างเกิดความเสียหาย เนื่องจากการเคลื่อนย้ายเครื่องจักร การเสื่อมสภาพของผิวทางตามอายุใช้งาน ประกอบกับฝนตกชุกและการจราจรหนาแน่น ทำให้เกิดการชำรุดเสียหายที่มากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ได้กำชับผู้รับเหมาให้เขาทำการปากซ่อมเป็นระยะ