รถไฟฟ้าสีชมพู ขยายนั่งฟรีข้ามปี "คมนาคม-รฟม."เจรจาเอกชนให้ของขวัญประชาชนถึง 2 ม.ค.67 พร้อมยืดจอดรถฟรีอาคารจอดแล้วจรที่สถานีมีนบุรีด้วย จากนั้นจะเริ่มเก็บค่าโดยสาร 15–45 บาท ส่วนจอดรถ 5 บาท/ชั่วโมง กรณีใช้บริการรถไฟฟ้า
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแล การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการเจรจาร่วมกับ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ซึ่งบรรลุข้อตกลงร่วมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย ผู้รับสัมปทาน NBM มีความยินดีที่จะขยายช่วงเวลาให้ประชาชนสามารถใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ตลอดสาย ครบทั้ง 30 สถานี และ ที่จอดรถ บริเวณชั้น 1 ของอาคารจอดแล้วจรที่สถานีมีนบุรี ฟรี! ซึ่งจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 17 ธันวาคม 2566 จะขยายไปจนถึง วันที่ 2 มกราคม 2567 เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขส่งท้ายปี และมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนทุกคน และจากนั้นจึงจะเริ่มเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
นายสุริยะ กล่าวว่า มีประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัวในการทดลองใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู เป็นจำนวนมาก โดยวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 มีผู้ใช้บริการในรวมจำนวน 50,910 คน-เที่ยว(ให้บริการช่วงเวลา 15.00-20.00 น.) และวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 98,262 คน-เที่ยว (ให้บริการช่วงเวลา 06.00-20.00 น.) สะสม 2 วันมีผู้ใช้บริการรวม 149,172 คน-เที่ยว ซึ่งนับเป็นเรื่องดีที่สะท้อนถึงความพร้อมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางของคนไทย หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะกันมากขึ้นยิ่งเป็นระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่ขนส่งผู้โดยสารได้คราวละมากๆ และใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ก็จะช่วยบรรเทาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศโลกไปได้โดยปริยาย
นอกจากนี้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนยังช่วยให้ประชาชนสามารถควบคุมเวลา วางแผนการเดินทางได้ดียิ่งขึ้นได้รับทั้งความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบาย Quick Win “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ที่มุ่งยกระดับความสุขของประชาชนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความปลอดภัย การให้บริการที่เป็นมาตรฐานสากล และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ กล่าวเพิ่มเติมว่า รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ที่วิ่งให้บริการในเส้นทางแคราย - มีนบุรี รวมระยะทางประมาณ 34.5 กิโลเมตร มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 17,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ด้วยขนาด 4 ตู้ต่อขบวน โดยจะใช้ขบวนรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการในระบบและขบวนสำรองรวมทั้งสิ้น 42 ขบวน มีจุดเด่นในการทำหน้าที่เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง (Feeder Line) เพราะมีสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายหลักมากถึง 5 สถานี ได้แก่ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง), สถานีหลักสี่ เชื่อมต่อกับรถไฟชานเมือง สายธานีรัถยา, สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว, สถานีวัชรพล เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาในอนาคต และสถานีมีนบุรี เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม (MRT สายสีส้ม) จึงสามารถขนส่งผู้โดยสารจากพื้นที่จังหวัดนนทบุรีและตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เข้าสู่รถไฟฟ้าสายหลักที่วิ่งให้บริการในพื้นที่ใจกลางเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2567 เป็นต้นไป จะเริ่มเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ ด้วยอัตราค่าโดยสาร 15 – 45 บาท
นอกจากนี้ ยังมีอาคารจอดแล้วจรให้บริการ 1 แห่ง ใกล้กับสถานีมีนบุรี ขนาด 3 ชั้น สามารถรองรับรถยนต์ได้ 3,025 คัน โดยมีพื้นที่จอดรถสำหรับผู้พิการ และพื้นที่จอดรถจักรยานยนต์ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อาทิ ลิฟต์โดยสาร ห้องน้ำ ห้องน้ำผู้พิการ บันไดหนีไฟ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด ฯลฯ ไว้ให้บริการอย่างครบครัน ซึ่งผู้ใช้บริการอาคารจอดแล้วจรสามารถใช้ทางเดินเชื่อมต่อเข้าสู่สถานีมีนบุรีได้โดยสะดวก โดยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2567 เป็นต้นไป จะเริ่มเก็บค่าบริการจอดรถในอัตรา 5 บาทต่อชั่วโมง สำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู และอัตราชั่วโมงละ 20 บาท สำหรับผู้ไม่ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู กรณีผู้ถือบัตรแรบบิทสามารถเลือกใช้บริการจอดรถถรายเดือนได้ในอัตรา 1,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ ยกเว้นค่าบริการจอดรถให้ หากจอดรถไม่เกิน 15 นาที