บริษัท แวนด้าแพค จำกัด ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ Vandapac รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Maxliner และยางฉนวนกันความร้อน ภายใต้แบรนด์ Maxflex โดยกว่า 35 ปี ของการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจอุปกรณ์ยานยนต์ ยางฉนวน และบรรจุภัณฑ์ด้านอาหารในระดับสากล พร้อมให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
“การเริ่มต้นในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนอาจมีต้นทุนที่สูง แต่ผลลัพธ์ที่ได้มีมูลค่ามากกว่าเงินลงทุนที่สูญเสียไป”
คุณณัฏฐ์ภคนันท์ สุจริยะ ผู้จัดการแผนกทรัพยากรบุคคล บริษัท แวนด้าแพค จำกัด ได้กล่าวถึงการเริ่มต้นการขับเคลื่อนความยั่งยืนภายในบริษัท เป็นเรื่องที่มาควบคู่กับต้นทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากมองในมุมผลลัพธ์ที่ได้นั้น มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า บริษัทสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศได้ 12% และตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 25% ภายในปี 2030 ซึ่งในปัจจุบันบริษัทได้เริ่มดำเนินการวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์ หรือ Carbon Footprint of Products โดยใช้หลักการประเมินผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง การประกอบชิ้นส่วน การใช้งาน และการจัดการซากหลังการใช้งาน พร้อมทั้งแสดงข้อมูลปริมาณคาร์บอนฟรุตพริ้นท์ไว้บนผลิตภัณฑ์ต่างๆ นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จในการคิดค้นนวัตกรรมการพัฒนาพลาสติก โพลีโพรพิลีนผสมเส้นใยแก้วที่มีความแข็งแรงสูงสำหรับใช้ในการผลิตอุปกรณ์ยานยนต์ ทำให้สามารถลดความหนาหรือน้ำหนักของพลาสติกได้ราว 20% โดยยังคงความแข็งแรงตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างดี นอกจากนี้บริษัทยังได้เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด ติดตั้งระบบโซลาร์เซลบนหลังคาของอาคารต่างๆ ทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 4,500 ตันต่อปี รวมถึงได้เปลี่ยนผ่านสู่การเป็น low carbon logistics เช่น เปลี่ยนมาใช้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า และทบทวนเส้นทางการขนส่งเพื่อลดเส้นทางที่ซับซ้อน
นอกจากนี้แวนด้าแพค ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Thailand Supply Chain Network (TSCN) เครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย ที่มีการรวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล เชื่อมโยงข้อมูล ทั้งด้านการค้า การเปลี่ยนแปลงการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเรื่องราวการพัฒนาอย่างยั่งยืน ช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะในแพลตฟอร์ม TSCN มีทั้งผู้ซื้อที่กำลังมองหาสินค้า และผู้ขายที่กำลังจะเสนอขายสินค้า สามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ และสิ่งสำคัญคือการขยายเครือข่ายพันธมิตร เพราะใครที่ทำธุรกิจได้รวดเร็วกว่า ก็จะไปถึงจุดมุ่งหมายได้เร็วกว่า การที่เราประหยัดเวลาการในการค้นหาคู้ค้า หรือพันธมิตรต่างๆ จะเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี
#TSCN #ThailandSupplyChainNetwork #sustainability