xs
xsm
sm
md
lg

กกพ.เปิด 3 ทางเลือกขึ้นค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย. 67 สูงสุด 5.96 บาท ต่ำสุด 4.68 บาท/หน่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กกพ.เตรียมเปิดรับฟังความเห็นปรับขึ้นค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย. 67 เป็น 3 ทางเลือก สะท้อนต้นทุนและภาระคงค้างให้กับ กฟผ.อีก 95,777 ล้านบาท ณ ปลายเดือน ส.ค. 2566 โดยทั้ง 3 ทางเลือกปรับขึ้นเฉลี่ยเป็น 5.95-4.93 และ 4.68 บาท/หน่วยจากงวด ก.ย.-ธ.ค. 66 เฉลี่ยที่ 3.99 บาท/หน่วย

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ด กกพ.เมื่อ 8 พ.ย.ได้มีมติรับทราบภาระต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจริงประจำเดือนพ.ค.-ส.ค. 2566 และเห็นชอบการคำนวณประมาณการค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวด ม.ค.-เม.ย. 67 พร้อมกับให้สำนักงาน กกพ.นำค่า Ft ที่ประมาณการและแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ไปรับฟังความคิดเห็นใน 3 ทางเลือกตั้งแต่ 10-24 พ.ย.  66

ทั้งนี้ ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG ในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงในช่วงกลางปี 66 ส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าจริงที่เกิดขึ้นในรอบ Ft งวด พ.ค.-ส.ค. 66 มีค่าต่ำกว่าประมาณการ ประกอบกับมีเงินส่งคืนส่วนต่างราคาก๊าซจากการดำเนินการตามมติ กพช.ในวันที่ 25 พ.ย. 65 จาก บมจ.ปตท. ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจริงในรอบ พ.ค.-ส.ค. 66 มีค่าต่ำกว่าประมาณการ และทำให้ กฟผ.มีภาระต้นทุนคงค้างลดลงเหลือ 95,777 ล้านบาทในปลายเดือนส.ค. 66 ปัจจุบันสถานการณ์ราคา LNG ในตลาดโลกอยู่ในช่วงขาขึ้นตามความต้องการใช้ LNG ที่เพิ่มมากขึ้นตามสภาพฤดูหนาวในยุโรป และส่งผลให้การประมาณการต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในรอบ ม.ค.-เม.ย. 67 เพิ่มขึ้นเป็น 64.18 สตางค์ต่อหน่วยซึ่งสะท้อนปริมาณการนำเข้า LNG เพื่อชดเชยก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ดังนั้นจึงกำหนดแนวทางการเปลี่ยนแปลงดังนี้

สำหรับ กรณีที่ 1 (จ่ายคืนภาระต้นทุนค้างทั้งหมด) แบ่งเป็น Ft ขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน ม.ค.-เม.ย. 67 จำนวน 64.18 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชำระภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ.จำนวน 95,777 ล้านบาทในงวดเดียว รวมเท่ากับ 216.42 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วยแล้วทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.95 บาทต่อหน่วยตามรายงานการคำนวณตามสูตรเอฟที

กรณีที่ 2 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 1 ปี) แบ่งเป็น Ft ขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 จำนวน 64.18 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อทยอยชำระภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. จำนวน 95,777 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 งวด งวดละจำนวน 31,926 ล้านบาท รวมเท่ากับ 114.93 สตางค์ต่อหน่วยสำหรับเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพิ่มขึ้นเป็น 4.93 บาทต่อหน่วย

กรณีที่ 3 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 2 ปี) แบ่งเป็น Ft ขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 จำนวน 64.18 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อทยอยชำระภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. จำนวน 95,777 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 6 งวด งวดละจำนวน 15,963 ล้านบาท รวมเท่ากับ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพิ่มขึ้นเป็น 4.68 บาทต่อหน่วย

 


ปัจจุบันก๊าซธรรมชาติในอ่าวยังอยู่ระหว่างปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 200-400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันเป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในเดือน เม.ย. 2567 ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนำเข้า LNG เพื่อชดเชยก๊าซในอ่าวไทย ซึ่งหากมีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจะทำให้ต้องนำเข้า LNG เพิ่มมากขึ้นอีกตามลำดับ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ประกอบกับสงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้อัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมันดิบดูไบ และราคา LNG มีความผันผวนสูง จึงมีความเสี่ยงที่ต้นทุนค่าไฟฟ้าในรอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2566 และ ม.ค.-เม.ย. 2567 เปลี่ยนแปลงไปจากประมาณการ อย่างไรก็ตาม กกพ.จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการต้นทุนค่าเชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพในราคาที่เหมาะสม มีความมั่นคง และเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
กำลังโหลดความคิดเห็น