การตลาด - ปฏิบัติการสกัดดาวรุ่งวงการค้าส่งอาหารระอุ แม็คโครเคลื่อนทัพรับ “น้องใหม่-นายเก่า” แบบจัดเต็มตั้งแต่สนามแรก ปิดหน้าล้อมหลังย่านสมุทรปราการ ศรีนครินทร์ แบบประชิดตัว ปรับใหญ่สาขาศรีนครินทร์พร้อมเปิดโฉมใหม่วันเดียวกันชนกับ โก โฮลเซล แบบไม่เกรงใจ พร้อมผุดค้าส่งไฮบริดสาขาแรกดักไว้อีกทาง แต่งานนี้ โก โฮลเซล ย่อมมีดี ไม่หวั่นอยู่แล้ว
ผ่านพ้นไปแล้วกับวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นวันดีเดย์เปิดบริการ โก โฮลเซล (GO WHOLESALE) ธุรกิจค้าส่งอาหารตัวแรกของกลุ่มเซ็นทรัล ที่เปิดสาขาแรกที่ถนนศรีนครินทร์ใกล้กับปากน้ำ
ขณะที่ด้านแม็คโคร ผู้นำธุรกิจค้าส่งของไทย และเป็นเจ้าถิ่นเดิมบนถนนศรีนครินทร์ ก็มีการเคลื่อนไหวสกัดดาวรุ่งอย่างถึงพริกถึงขิงกันเลยทีเดียว
ไม่ใช่แค่แม็คโครเท่านั้น ทั้ง โลตัส (เครือเดียวกับแม็คโคร) รวมทั้ง บิ๊กซี ก็ตั้งป้อมรับมือและสกัดทางเดินน้องใหม่ โดยเฉพาะสมรภูมิย่านถนนศรีนครินทร์ กินเลยถึงปากน้ำ สมุทรปราการ
ถ้าจะกล่าวว่าเกมการรุกหนักครั้งนี้ของแม็คโคร คือการ “รับน้องใหม่-นายเก่า” ในคราวเดียวกัน ก็ไม่ผิด
เนื่องเพราะหัวเรือใหญ่ของ “โก โฮลเซล” ของกลุ่มเซ็นทรัลนั้นมี นางสุชาดา อิทธิจารุกุล เป็นแม่ทัพใหญ่ผู้กุมบังเหียน ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือ CRC ซึ่งสุชาดาก็เป็นอดีตซีอีโอ แม่ทัพใหญ่และลูกหม้อคนหนึ่งของแม็คโครมาก่อน จึงถือเป็นนายเก่าของแม็คโคร ก่อนที่จะเกษียณออกมาไม่กี่ปีนี้ เพื่อมารับผิดชอบปลุกปั้น โก โฮลเซล ให้กับเซ็นทรัล จึงมีอีกสถานะหนึ่งเป็นค้าส่งน้องใหม่นั่นเอง
นี่คือปฏิบัติการ รับ “น้องใหม่-นายเก่า”
ก่อนที่ โก โฮลเซล จะเปิดเป็นทางการ ทางฟากแม็คโคร ของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ก็มีการปูพรมโฆษณา ประชาสัมพันธ์กันยกใหญ่ มีทั้งรถแห่เชิญชวน การติดป้ายบิลบอร์ดเกลื่อนถนนศรีนครินทร์ ยาวไปถึงถนนสุขุมวิท ปากน้ำ สำโรง และพื้นที่ใกล้เคียงย่านนั้น เพื่อประกาศให้รู้ว่า แม็คโคร สาขาศรีนครินทร์ ได้รีโนเวตปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่เสร็จสิ้นแล้ว
โดยแม็คโคร สาขาศรีนครินทร์ เป็นสาขาที่ 3 ที่เปิดในไทยมามากกว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งโก โฮลเซล ยังไม่เป็นวุ้นเลยในตอนนั้น
แม็คโครยึดเอาวันที่ 27 ตุลาคมเป็นวันเบิกฤกษ์ อย่างจงใจหรือไม่ก็มิอาจปฏิเสธได้ เป็นวันเดียวกับที่ โก โฮลเซล เปิดตัวเป็นทางการวันแรกเช่นกัน
นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกมิติ จึงปรับรูปลักษณ์ใหม่ของแม็คโคร ศรีนครินทร์ ให้มีความเป็นค้าส่งสมัยใหม่ โดยชูจุดเด่นแหล่งรวมสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาค้าส่งที่ดีที่สุด ผสานสิ่งอำนวยความสะดวกด้านบริการที่รองรับความต้องการของผู้ประกอบการและลูกค้าทุกกลุ่ม
โดยแม็คโครศรีนครินทร์โฉมใหม่ ชูจุดเด่น 5 ประการ เพื่อดักลูกค้าดังนี้
1. พื้นที่จำหน่ายอาหารสดรูปแบบใหม่ กว้างใหญ่ยิ่งกว่าเดิม ครบครันที่สุดในย่านศรีนครินทร์ด้วยสินค้าเพื่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการกว่า 30,000 รายการ พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ที่ไม่ธรรมดากับการยกทัพสินค้ากว่า 30,000 รายการ ที่มาพร้อมโปรแรงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยสินค้าไอเทมลับ #ซื้อ1แถม1 มากที่สุดในประวัติการณ์ จัดเต็มทุกวันอย่างต่อเนื่องถึง 31 ต.ค. 66 ไอเท็มไม่ซ้ำ ราคาลดแล้ว ลดอีก
2. แนวคิดใหม่ของสินค้ากลุ่มเบเกอรี และสินค้าอุปโภค (Non-food) ที่ตกแต่งทันสมัย โดดเด่นทั้งด้านคุณภาพ และราคาสินค้า
3. เสริมความทันสมัยด้วยป้ายแสดงราคาสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESL) อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า
4. โปรโมตสินค้าผ่านสื่อดิจิทัลภายในสาขา เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ
5. ศูนย์อาหาร “Lotus’s Eatery” ที่รวมร้านเด็ดเจ้าดังมาไว้ที่นี่ โดยจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้า ซึ่งโมเดลศูนย์อาหารใหม่นี้เพิ่งจะเปิดตัวที่ตึกทรูดิจิทัลพาร์คไม่นานนี้เอง
นอกจากการปรับโฉมสาขาให้ใหม่แล้ว ยังมีการนำเอากิจกรรมความบันเทิงเข้ามาเป็นตัวดึงดูดลูกค้าผู้บริโภคอีกด้วย
เพื่อเป็นการฉลองก้าวสู่ปีที่ 34 ของแม็คโคร ศรีนครินทร์ ได้จัดแคมเปญโปรโมชันแรงแห่งปี เช่น โปรแรงถล่มเมืองกับสินค้าไอเท็มลับ ที่ลดราคาเป็นพิเศษ, โปรโมชันลดแรงพิเศษวันเดียวเท่านั้น, มินิคอนเสิร์ตและกิจกรรม Meet & Greet อย่างใกล้ชิดกับนักแสดงหนุ่มชื่อดัง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” รวมถึงเพลิดเพลินไปกับการชิมอาหารแสนอร่อย ในงานแม็คโคร Food Festival และสนุกกับกิจกรรมท้าสุดยอดนักกินร่วมแข่งขันกินกุ้ง และแข่งกินจุกับหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส ชิงเงินรางวัลมากมาย ภายในงานได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ประกอบการและลูกค้าชาวสมุทรปราการ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง งานจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้-29 ตุลาคม 2566
เป็นการเปิดตัวที่มีผู้คนมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งมากมายจริงๆ
อีกหมัดเด็ดของแม็คโครก็คือ ก่อนหน้านั้นไม่นาน แม็คโคร ก็เปิดเกมในการสกัดดาวรุ่งน้องใหม่ในยกแรกก่อน ด้วยการเปิดตัวธุรกิจค้าส่งโมเดลใหม่ในรูปแบบไฮบริด ซึ่งเป็นการรวมพลังกันระหว่าง แม็คโคร ค้าส่ง กับ โลตัส ค้าปลีก ในเครือเดียวกัน มาปรับใช้บนสาขาพื้นที่เดียวกัน เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง
เรียกได้ว่า ทำเอา โก โฮลเซล ต้องตื่นตัวทันที
กล่าวคือ โลตัส สาขาสมุทรปราการ ที่อยู่บนถนนสายลวด ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันกับ โก โฮลเซลล์ศรีนครินทร์ ซึ่งเปิดบริการมาก่อนแล้ว มีการปรับโมเดลใหม่ ด้วยการนำเอาแม็คโครเข้ามารวมกันในพื้นที่เดียวกันเพื่อรุกค้าส่ง แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น แม็คโคร สาขาสมุทรปราการ จากเดิมที่เป็นโลตัส ขณะเดียวกัน สาขานี้ก็จะไม่มีบริการโลตัสแบบค้าปลีกแล้ว มีแต่บริการในส่วนของพื้นที่พลาซา ร้านค้าปลีกต่างๆ
แก้โจทย์ที่ว่า จะหาพื้นที่ใหญ่ขนาดสร้างแม็คโครในละแวกดังกล่าวคงยาก และทำเลอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งเงินทุนไม่ใช่ปัญหาเลย แต่สำคัญที่จะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสร้างเสร็จ ซึ่งก็ไม่ทันต่อการสกัดดาวรุ่งในช่วงแรกนั่นเอง
ด้วยมองเห็นว่าสมุทรปราการนี้เป็นจังหวัดแห่งอุตสาหกรรมที่อยู่ติดกับกรุงเทพฯ มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ดี อีกทั้งมีผู้บริโภคและผู้ประกอบการในพื้นที่ย่านนี้มากกว่า 750,000 ครัวเรือน หรือประมาณ 1.4 ล้านคน นั่นหมายถึงดีมานด์ที่มีรออยู่มากมาย จึงไม่แปลกที่แม็คโครจะทำไฮบริดที่นี่ และที่สำคัญก็คือ การปรับใหม่เพื่อต้อนรับในเชิงรุกของโก โฮลเซล นั่นเอง
การเผยโฉม Hybrid Wholesale แห่งแรกที่จังหวัดสมุทรปราการนี้ แม็คโครเล็งเห็นศักยภาพที่โดดเด่นของจังหวัด ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมใกล้กรุงเทพฯ มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่อง และเป็นศูนย์รวมผู้ประกอบการ และผู้บริโภคกว่า 750,000 ครัวเรือน ที่มองหาแหล่งรวมสินค้าคุณภาพครบครัน ในราคาคุ้มค่า สอดคล้องกับโมเดลธุรกิจของแม็คโคร ในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจค้าส่งที่พร้อมสนับสนุนชุมชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดให้เติบโต
นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง คอนเซ็ปต์ “Hybrid Wholesale” ของแม็คโคร ว่าเป็นการผนึกกำลัง ที่จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกของเมืองไทย ในการนำจุดแข็งของแม็คโครผู้นำค้าส่ง มาผนวกรวมกับโลตัส มอลล์ ที่เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม โมเดลค้าส่งไฮบริดนี้เป็น 1 ใน 5 โมเดลที่มีอยู่ของแม็คโครที่ประกอบด้วย
1. แม็คโคร คลาสสิก เป็นโมเดลดั้งเดิมมาตรฐาน พื้นที่ขายของโมเดลนี้มีประมาณ 5,000-12,000 ตารางเมตร เน้นกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นร้านโชวห่วย ร้านค้าปลีกรายย่อยทั่วไป
2. แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส พื้นที่ขายของโมเดลนี้มีประมาณ 1,000-5,000 ตารางเมตร เน้นกลุ่มโฮเรกา (โรงแรม ภัตตาคาร แคเมอริ่ง) โดยเฉพาะ เน้นอาหารสด อาหารแห้ง อาหารแช่แข็ง เครื่องครัว อุปกรณ์ และของใช้ที่จำเป็นเกี่ยวข้อง
3. แม็คโคร อีโค พลัส พื้นที่ขายของโมเดลนี้มีประมาณ 7,000 ตารางเมตร เน้นผู้ประกอบการรายย่อย โดยแบ่งสัดส่วนพื้นที่อาหารสดเพื่อกลุ่มโฮเรกามากขึ้น จะเน้นเปิดในทำเลพื้นที่ที่มีธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยงจำนวนมาก และมีศักยภาพในการเติบโต ต่างจากการหาทำเลในโมเดลอื่น เช่น สาขาพัทยา สาขาภูเก็ต สาขาเชียงใหม่ (หางดง) เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่จะมีร้านอาหาร โรงแรม จำนวนมาก
4. แม็คโคร ฟูดชอป พื้นที่ขายของโมเดลนี้มี 600-800 ตารางเมตร โมเดลนี้จะเล็ก ไม่ใหญ่มาก เพื่อความคล่องตัวในการเปิดสาขา เน้นกลุ่มโฮเรกาในพื้นที่นั้นๆ เป็นหลัก
5. รูปแบบไฮบริด “Hybrid Wholesale” ที่เป็น “มากกว่าค้าส่ง” มาจากการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) เป็นโมเดลล่าสุดที่เปิดสาขาแรกที่สมุทรปราการโดยเปลี่ยนแปลงมาจากโลตัสเดิมเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา ดังที่กล่าวข้างต้น
นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย กล่าวถึงแนวทางการบริหารงานของแม็คโครใน “Hybrid Wholesale” ว่า เรานำจุดแข็งของแม็คโครด้านสินค้าคุณภาพจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งผลิตชั้นนำทั่วทุกมุมโลก ในราคาค้าส่งที่ดีที่สุด พร้อมความเข้าใจผู้ประกอบการและพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 34 ปี รวมถึงมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ คุ้มค่าทุกการใช้จ่ายเฉพาะลูกค้าสมาชิก (Makro PRO Point Loyalty Program)
“อีกจุดเด่นที่สำคัญในการตอบโจทย์ผู้ประกอบการ คือ การเชื่อมโยงทุกช่องทางในการให้บริการลูกค้า ไม่ว่าจะผ่านทีมงานขายมืออาชีพ การสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Makro PRO) และการซื้อที่สาขา เพื่อประสบการณ์การซื้ออย่างไร้รอยต่อ (Omni-Channel) ทำให้ลูกค้าเข้าถึงแม็คโครได้สะดวก รวดเร็ว” นายธนิศร์กล่าว
ขณะที่ นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “Hybrid Wholesale” ที่แม็คโครได้พัฒนาขึ้นนี้เป็นโมเดลธุรกิจที่มีการผสมผสานความแข็งแกร่งของทั้ง 2 องค์กร โดยโลตัส มอลล์ เองจะนำความเชี่ยวชาญในการบริหาร Smart Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัยในชุมชน ซึ่งเป็นจุดแข็งของโลตัส เข้ามาสนับสนุนการขยายฐานลูกค้าให้แม็คโคร การจับมือกันครั้งนี้ จะเป็นการสร้างโอกาสและประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ แม็คโครสมุทรปราการนี้จะมีแม็คโครที่เป็นค้าส่ง และโลตัสในรูปแบบที่เป็นพลาซาเท่านั้น แต่จะไม่มีในส่วนของไฮเปอร์มาร์เกตสโตร์ค้าปลีกของโลตัส
เท่ากับว่า แม็คโคร สมุทรปราการก็จะกินพื้นที่ครอบคลุมมาถึงศรีนครินทร์ได้ด้วยเช่นกัน จึงเป็นการตีกันน้องใหม่ค้าส่งของทางโกโฮลเซลลอย่างเลี่ยงไม่ได้
ที่สำคัญ พื้นที่ห่างจากโกโฮลเซลไม่กี่ร้อยเมตรก็เป็นที่ตั้งของ โลตัส พลัส ศรีนครินทร์ เช่นกัน ซึ่งก็จะแย่งลูกค้าแม้จะไม่ใช่ค้าส่งโดยตรงก็ตาม
แม็คโคร สาขาสมุทรปราการ มีพื้นที่กว่า 12,000 ตารางเมตร จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่า 30,000 รายการ ในราคาค้าส่ง ผสานความเป็นไลฟ์สไตล์ของโลตัส มอลล์ ที่มีศูนย์อาหารและร้านค้าชั้นนำกว่า 30 ร้านค้า โรงเรียนกวดวิชา แหล่งรวมความบันเทิงแบบครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีบริการรถสองแถวรับ-ส่งฟรี ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการในสาขาใหม่นี้กว่า 8,000 คนต่อวัน
น้องใหม่อย่าง โก โฮลเซล ก็พร้อมเปิดฉากลุยวันที่ 27 ตุลาคมนี้ที่ผ่านมา
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือ CRC กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะต้องมีการแข่งขันในทุกตลาดทุกธุรกิจไม่เว้นแม่แต่ค้าส่งอาหาร
ถ้าจะดูเฉพาะในพื้นที่แรกที่ โก โฮลเซล ปักธงก่อนอย่างสมุทรปราการนี้ ก็ถือเป็นตลาดที่ใหญ่น่าสนใจมาก เพราะว่าตลาดของสินค้ากลุ่มอาหารมีการประเมินตัวเลขไว้สูงถึงเป็นเกือบแสนล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งเท่ากับว่ายังมีตลาดมหาศาลที่ผู้ประกอบการใหม่ยังมีโอกาสทำตลาดได้อีกมาก ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือ ผู้บริโภคหรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนั่นเองที่จะได้รับผลประโยชน์มีทางเลือกมากขึ้น
นางสุชาดาย้ำว่า “GO Wholesale เป็นศูนย์ค้าส่งสินค้าระบบสมาชิก ในราคาขายส่ง เพื่อผู้ประกอบการ แบรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่จะพลิกโฉมวงการธุรกิจค้าส่ง สร้างทางเลือกใหม่ ให้กับลูกค้าผู้ประกอบการทั้ง กลุ่มโฮเรกา (โรงแรม, ร้านอาหาร, ธุรกิจจัดเลี้ยง) ผู้ให้บริการอาหารในโรงงาน โรงพยาบาลและหน่วยงานอื่นๆ ร้านค้าปลีก ร้านโชวห่วย ที่ต้องการประสบการณ์ที่แตกต่าง
“เราได้ทำการสำรวจความต้องการของผู้ประกอบการ และนำมาวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งโดยทีมงานที่เชี่ยวชาญในธุรกิจค้าส่ง จนได้รูปแบบของสาขาและบริการที่แปลกใหม่ จำนวนสินค้าที่มีความหลากหลายตอบโจทย์ผู้ประกอบการ เพิ่มความสะดวกด้วยบริการชำระเงินในทุกช่องทาง และต่อยอดระบบสมาชิกที่แข็งแกร่ง ด้วยลอยัลตีโปรแกรมที่มีสิทธิประโยชน์มากมาย ซึ่งเชื่อมต่อกับลอยัลตีแพลตฟอร์ม The1 ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ปด้วย” นางสุชาดากล่าว
จุดเด่นของ โกโฮลเซล ประกอบด้วย
1. แหล่งรวมอาหารสดขนาดใหญ่
2. บริการตัดแต่งสินค้าตามความต้องการใช้งาน
3. บริการบ่มเนื้อ Dry Age
4. แหล่งรวมอาหารแช่แข็งที่ครบครันที่สุดแห่งหนึ่งของไทย
5. ศูนย์รวมของวัตถุดิบที่เป็นสินค้าเอสเอ็มอีชื่อดังจากทุกพื้นที่ทั่วไทย
6. ‘Beverage Solution’ มุมให้คำปรึกษากับผู้ที่ต้องการเริ่มต้น ต่อยอด หรือพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่ม
7. สินค้าที่เกี่ยวกับธุรกิจดีลิเวอร ธุรกิจออนไลน์
8. ศูนย์ให้คำปรึกษาทางธุรกิจ (Business Center) เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเติบโตด้วยแนวคิด ‘เช่า เสริม เพิ่ม สบาย’ ได้แก่ เช่าอุปกรณ์ในครัว, เสริมบริการทำความสะอาด รวมถึงบริการติดตั้งและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และเพิ่มบริการออกแบบโลโก้ลงบนบรรจุภัณฑ์ สบาย ด้วยการสั่งซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ครัวขนาดใหญ่
9. “ห้องเวิร์กชอป” แหล่งรวมความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ
นี่จึงเป็นเพียงเกมยกแรกของสมรภูมิค้าส่ง ระหว่าง แม็คโคร เจ้าตลาดเดิม กับ โก โฮลเซล แค่สนามรบแรกถนนศรีนครินทร์ สมุทรปราการเท่านั้นยังดุเดือดเพียงนี้
ยังไม่นับรวมศึกใหญ่ที่จะเกิดตามมาอีก กับแผนงานของเซ็นทรัลที่จะเปิดโก โฺฮลเซล 4 สาขานำร่องก่อน ซึ่งนี่คือสาขาแรก ที่ลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท และจะตามมาด้วยอีก 3 สาขา คือที่เชียงใหม่ พัทยา และที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี ลงทุนเฉลี่ย 500 ล้านบาทต่อสาขา โดยคาดว่าในสิ้นปี 2566 นี้จะมีรายได้จากสาขาที่เปิดมากกว่า 500 ล้านบาท และคาดว่าจะมีสมาชิกประมาณ 2 หมื่นราย
ทั้งนี้ แผนงานระยะยาววางไว้ว่าจะต้องขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศให้ได้ อย่างน้อย 50-70 สาขา ภายในปี 2571 หรืออีก 5 ปีจากนี้ ด้วยงบประมาณลงทุนที่ซีอาร์ซีเตรียมไว้มากกว่า 20,000 ล้านบาท
พร้อมกับเป้าหมาย 5 ปีจากนี้ โก โฺฮลเซล จะต้องสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำถึง 70,000 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้สัดส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจค้าส่งรวมกันมากกว่า 25-30% จากปัจจุบันมีเพียง 17% เท่านั้นเอง
คงต้องจับยักษ์ใหญ่ตาดูต่อไปว่า เกมยกสอง ยกสาม ยกสี่ เรื่อยไปถึงสมรภูมิค้าส่งระดับประเทศจะเป็นอย่างไร ระหว่าง พี่ใหญ่ กับ น้องใหม่ แต่ล้วนเป็นยักษ์ใหญ่ด้วยกันทั้งคูู่