ร้านอาหารไทย "กัลปพฤกษ์" ยืนหยัดเพื่อสัตว์ พร้อมตั้งเป้าใช้ไข่ไก่จากไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรง (cage-free eggs) 100% ในปี 2566
กัลปพฤกษ์ เป็นร้านอาหารไทยที่ก่อตั้งโดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี และท่านผู้หญิงดัชรี รัชนี เมื่อปี พ.ศ. 2518 ได้ประกาศปณิธานใหม่เกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ไข่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยไม่ขังกรงเท่านั้น (cage-free) โดยจะเริ่มต้นใช้ในปีนี้ ซึ่งนโยบายนี้ได้รับแรงกระตุ้นและสร้างสรรค์จากการร่วมมือกับองค์กร Humane Society International องค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือดูแลสวัสดิภาพสัตว์ระดับโลก
การเปลี่ยนแปลงนี้จุดประกายความหวังสำหรับแม่ไก่จำนวน 95.8 ล้านตัวในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่ถูกขังอยู่ในกรงลวดที่คับแคบ ขนาดพอดีตัว ไม่สามารถกางปีกหรือขยับตัวก้าวเดินไปไหนได้ ระบบการเลี้ยงไก่แบบปราศจากกรงขังจะช่วยให้แม่ไก่มีพื้นที่อิสระในการวางไข่ การขยับปีก การคุ้ยเขี่ย จิกหาอาหารตามพื้นดิน ซึ่งการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระบุไว้ว่าพฤติกรรมเหล่านั้นจำเป็นในการใช้ชีวิตของไก่ตามธรรมชาติ
นางภดารี บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและทายาทร้านอาหารกัลปพฤกษ์ กล่าวถึงนโยบายใหม่ว่า “ตัวดิฉันเองและครอบครัวเป็นคนรักสัตว์ เราอยากเห็นแม่ไก่แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ มากกว่าการอยู่ในกรงขังตลอดชีวิต เราเชื่อว่ามันเป็นความรับผิดชอบของเราในการสร้างและสนับสนุนการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้นร่วมกับลูกค้าของเรา เราขอเป็นแรงบันดาลใจเล็กๆ ให้กับผู้อื่นในการสร้างสรรค์การกระทำเชิงบวกต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อม และเชื่อว่าโลกนี้จะน่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วยการมีส่วนร่วมของทุกคน”
การยกเลิกการใช้ไข่จากไก่ที่เลี้ยงในกรง ผสมผสานกับพันธกิจของร้านอาหารในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมที่ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสนับสนุนสวัสดิภาพของสัตว์ ด้วยนโยบายใหม่นี้ กัลปพฤกษ์กำลังส่งสารที่ชัดเจนไปยังอุตสาหกรรมการผลิตไข่ไก่และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องว่า อนาคตของการผลิตไข่ไก่ในประเทศไทยควรเป็นแบบปราศจากกรงขังหรือ cage-free
“ร้านกัลปพฤกษ์กำลังร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ อีก 50 แห่งในประเทศไทย เช่น The Coffee Club และ Sukishi Intergroup ซึ่งให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ไข่ไก่แบบ cage-free ประเทศไทยจึงเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์โลกเช่นเดียวกับบริษัทอื่นอีกมากกว่า 2,000 แห่งทั่วโลก เช่น Burger King, Bimbo, Sofitel Saigon Plaza และ Accor ที่มุ่งมั่นว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ไข่ไก่แบบ cage-free เช่นกัน” ลลดา ตั้งเจิดจรัส ผู้จัดการโครงการประจำประเทศไทยเพื่อการปกป้องและดูแลสวัสดิภาพสัตว์กล่าว และเธอยังกล่าวต่ออีกว่า “กัลปพฤกษ์เป็นผู้นำในภาคร้านอาหารไทยที่ตัดสินใจเลือกแหล่งไข่ที่มาจากไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรง นอกจากนี้ยังมีผู้ผลิตหลายสิบรายในประเทศไทยที่ใช้ระบบไม่ขังกรง 100% หรือเริ่มใช้ระบบไม่ขังกรง ซึ่งรวมไปถึง ซีพีฟู้ดส์, เบทาโกร, KCF, Akara, Omax, สงวนฟาร์ม, Naeville Organic Farm และ Be Indy Country Farm”
Humane Society International จะยังคงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนร้านกัลปพฤกษ์ในการดำเนินนโยบายนี้ และทางร้านเองจะสร้างสื่อเพื่อให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้เพื่อเพิ่มสวัสดิภาพสัตว์ให้สูงขึ้น งานของ Humane Society International มีเพื่อปรับปรุงสวัสดิภาพของสัตว์ในภาคเกษตรกรรมเป็นงานที่มาจากพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และจากความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ องค์กรจะทำงานร่วมกับบริษัทต่าง ๆ เกษตรกร ผู้ผลิตและแปรรูปอาหาร นักวิทยาศาสตร์ และผู้รับรองเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนไปใช้ระบบโรงเรือนแบบไม่ขังกรง และให้การสนับสนุนที่หลากหลายแก่บริษัทต่างๆ เช่น การเยี่ยมชมฟาร์ม การให้ความรู้แก่ผู้บริโภค ตลอดจนการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นขององค์กรและการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานให้ดีขึ้น
เกี่ยวกับ Humane Society International (HSI): องค์กรเพื่อการยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกเพื่อส่งเสริมความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ช่วยเหลือและปกป้องสุนัขและแมว ปรับปรุงสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์ม ปกป้องสัตว์ป่า ส่งเสริมการทดสอบและการวิจัยโดยไม่ใช้สัตว์ทดลอง ตอบสนองต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ และต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ทุกรูปแบบ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานของเราที่ hsi.org ติดตาม HSI บน X (ชื่อเดิม Twitter), Facebook และ Instagram