M Flow พุ่งต่อเนื่อง ยอดสะสมรวมกว่า 60.5 ล้านเที่ยว เดือน ก.ย.สัดส่วนใช้รวมกว่า 3.4 ล้านคัน เกือบ 40% เบียดใกล้ช่องเงินสด ด้านสมาชิกเกือบ 7 แสนบัญชีแล้ว ส่วนปัญหาเบี้ยวจ่ายมีน้อย 1-2% เร่งติดตั้งสาย M7 ปี 67 ใช้ได้ครบทุกด่าน
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า จากที่ได้มีการใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น (M- Flow) บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 (วงแหวนตะวันออก) ที่ด่านธัญบุรี 1 ด่านธัญบุรี 2 ด่านทับช้าง 1 และด่านทับช้าง 2 เพื่อแก้ปัญหาการจราจร พบว่าตั้งแต่เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2565 ถึงปัจจุบันมีปริมาณจราจรที่ใช้ระบบ M-Flow เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดสะสมรวมทั้งสิ้น 60,572,700 คัน และมีจำนวนสมาชิกผูกบัญชีจำนวน 698,690 คัน
โดยสถิติในเดือน ก.ย. 2566 มีปริมาณจราจรรวม 8,812,432 คัน แบ่งเป็น รถที่ผ่านช่องทางระบบ M-Flow จำนวน 3,467,071 คัน (สัดส่วน 39.34%) ผ่านช่องทาง M-pass/Easy-pass จำนวน 1,336,782 คัน (สัดส่วน 15.17%) และผ่านช่องเงินสด จำนวน 4,008,579 คัน (สัดส่วน 45.49%)
หากเปรียบเทียบกับช่วง 2 เดือนแรกที่เปิดใช้ระบบ M-Flow มีสัดส่วนปริมาณรถผ่านช่องทาง M-Flow ประมาณ 18.9% จากปริมาณรถทั้งหมด ผ่านช่องทาง M-pass/ Easy-pass สัดส่วน 19.64% และผ่านช่องเงินสดที่ 61% หลังจากผ่าน 1 ปีกว่าจะเห็นได้ว่าช่องทางเงินสดมีการปรับมาใช้ช่องทาง M-Flow เพิ่มขึ้นประมาณ 15-16% เนื่องจากช่องทาง M-Flow นั้นการจราจรจะผ่านได้รวดเร็วกว่า 5 เท่า หรือ 2,500 คัน/ชม.
"ประชาชนผู้ใช้ทางรปรับมาใช้ระบบ M-Flow มากขึ้นตามลำดับ จากในช่วงแรก รวมถึงปัญหาอุปสรรคในการใช้งาน การสมัครสมาชิก ซึ่งปัจจุบันปัญหาต่างๆ ลดลง ทำให้ผู้ใช้ทางได้รับความสะดวก ใช้เวลาผ่านด่านรวดเร็วขึ้น ลดการติดขัดหน้าด่านได้มากกว่า 80% และผลดีทางอ้อม คือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงอย่างมาก และประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจากเดิมหลายสิบล้านบาท/เดือน
สำหรับแผนการเปิดใช้ระบบ M-Flow ที่มอเตอร์เวย์สาย 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด) ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง หาผู้ติดตั้งระบบแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ก่อนเดือน ก.ย. 2567
ส่วนกรณีที่มีผู้ใช้บริการในระบบ M-Flow แล้วยังไม่ชำระค่าผ่านทางพบว่ามีไม่มาก ซึ่งผู้รับจ้างงานบริหารจัดการ M-Flow จะดำเนินการชดเชยให้กรมทางหลวงตามสัญญา กรมทางหลวงได้รับเงินค่าผ่านทางจากการใช้บริการ M-FLOW ครบถ้วน ไม่มีความเสี่ยงเรื่องหนี้ค้างชำระใดๆ ไม่มีผลกระทบเรื่องค่าผ่านทางค้างชำระนี้
ทั้งนี้ กรณีการค้างชำระค่าผ่านทาง ส่วนใหญ่เป็นปัญหาทางเทคนิค เช่น ผูกบัญชีให้ตัดบัตรเครดิต แต่เจ้าของบัตรไม่ทราบว่าวงเงินเต็ม หรือตัดผ่านบัตร Easy Pass /M Pass แต่เงินในบัตรไม่พอ เป็นต้น ซึ่งเมื่อตัดบัญชีไม่ได้ จะเกิดเป็นหนี้ค้างชำระและโดนเรียกปรับประมาณ 8% ซึ่งผู้ใช้จะรีบมาชำระภายในกำหนด จะเหลือคงค้างประมาณ 1-2% เท่านั้น
นายสราวุธกล่าวว่า รายได้จากค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์สาย 7 และสาย 9 จะนำส่งกองทุนค่าธรรมเนียมมอเตอร์เวย์ ซึ่งปัจจุบันกองทุนมีสภาพคล่องในระดับที่ดี ขณะที่กองทุนฯ มีภาระเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการการให้บริการด้านอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย รวมถึงชำระค่าก่อสร้าง งานโยธา โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 หรือมอเตอร์เวย์ ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว วงเงิน 19,000 ล้านบาท โดยจะทยอยจ่ายในระยะเวลา 3 ปี