“บีทีเอส”พบป.ป.ช.ขอโอกาสชี้แจงปมชี้มูล”จ้างเดินรถสายสีเขียว” ยันไม่มีส่วนรู้เห็น กทม.เทียบเชิญยื่นข้อเสนอก่อนทำสัญญา

บีทีเอส พบ ป.ป.ช.ขอส่งเอกสารและชี้แจงด้วยวาจา ปมชี้มูลจ้างเดินรถสายสีเขียว ยันไม่มีส่วนสนับสนุนใดๆ ยื่นข้อเสนอตามคำเชิญกทม. “สุรพงษ์”เผยไม่กังวล กทม.นำไปสู้คดีหนี้ค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยาย 2 ส่วนนโยบายค่าโดยสาร 20 บาท ทำได้แต่รัฐต้องอุดหนุน

วันที่ 15 ก.ย. 2566 เวลา 13.30 น.นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) พร้อมฝ่ายกฎหมายบริษัทฯ ได้เข้าพบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) เพื่อชี้แจงถึงกรณีที่ คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดต่อ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 12 คน รวมถึง นายคีรี กาญจนพาสน์ และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ในฐานะกรรมการ และผู้บริหาร BTSC กรณีการทำสัญญาให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายตั้งแต่ปี 2555 ( สัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ) โดยใช้เวลาประมาณ 50 นาที

นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทฯยังไม่ได้รับมติป.ป.ช.อย่างเป็นทางการ เพราะอยู่ระหว่างกระบวนการรับรองมติ วันนี้ได้เข้ามาให้ข้อมูลกับผู้อำนวยการสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 3 ป.ป.ช. ยืนยันว่า บริษัทฯ ไม่ทราบว่าถูกชี้มูลความผิดเรื่องอะไรบ้าง หรือกรณีระบุว่า บริษัทฯมีการสนับสนุนอย่างไร ก็ยังไม่มีความชัดเจน จึงขอโอกาสชี้แจงข้อมูล กับ ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช.เปิดโอกาสให้บริษัทฯ ทำคำชี้แจงเพิ่มเติมก่อนที่จะส่งสำนวนไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด หลังจากนี้บริษัทฯจะเร่งเข้าชี้แจงรายละเอียดด้วยวาจา พร้อมสำเนาเอกสาร ซึ่งทางป.ป.ช.จะกำหนดนัดหมายต่อไป

“ข้อเท็จจริงเรื่องนี้คือ บริษัทฯเป็นเอกชน และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เพราะกทม.ดำเนินการส่วนต่อขยายตามแผนแม่บท ที่รัฐบาลกำหนด ส่วนการเลือกวิธีการจ้างเดินรถส่วนต่อขยาย กทม.เชิญบริษัทฯเข้าไปยื่นข้อเสนอ ซึ่งได้ยื่นไปหลายแบบ เข้าใจว่ากทม.เห็นว่ารูปแบบนี้ดีที่สุด เป็นประโยชน์กับประชาชนที่สุด จึงทำสัญญากับบริษัทฯ ซึ่งไม่ได้เป็นการขยายสัญญาสัมปทาน ของเส้นทางหลัก ที่จะหมดปี 2572 แต่เป็นการเซ็นสัญญาจ้างเดินรถ และทางกทม.ได้มีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว”

นายสุรพงษ์กล่าวว่า กรณีที่ป.ป.ช.ชี้มูลดังกล่าว ยังไม่มีผลกระทบต่อ การเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 เพราะ ศาลยังไม่ตัดสิน ถือว่ายังไม่สิ้นสุด และก็ไม่กังวลกรณีที่ กทม.จะนำประเด็น ป.ป.ช.ชี้มูลเรื่องนี้ ไปใช้ต่อสู้ในคดีที่ บริษัทฯ ฟ้อง ที่กทม.ติดหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงสายสีเขียวส่วนต่อขยายแต่อย่างใด

สำหรับสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายระหว่างกทม. และBTSC เมื่อ ปี 2555 ประกอบด้วย 4 เส้นทางได้แก่ 1.เส้นทางตามสัมปทานเดิม ระยะทาง 23.5 กม. 2. ส่วนต่อขยายสายสีลม จากสถานสะพานตากสิน-ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ระยะทาง 2.2 กม. 3. ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 จากซอยสุขุมวิท 85- ซอยสุขุมวิท 107 ระยะทาง 5.25 กม. 4. ส่วนต่อขยายสายสีลม(ตากสิน-เพชรเกษม) ระยะทาง 5.3 กม. โดย สัญญามีอายุ 30 ปี เริ่มตั้งแต่ วันที่ 3 พ.ค. 2555- วันที่ 2 พ.ค. 2585


@ สายสีเขียวเก็บ 20 บาทรัฐต้องอุดหนุนส่วนต่าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไรกับนโยบายลดค่าโดยสารเหลือ 20 บาทตลอดสาย นายสุรพงษ์ กล่าวว่า BTS พร้อมสนับสนุนนโยบายนี้ แต่ต้องมีความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการด้วย รัฐบาลต้องอุดหนุน เพราะต้นทุนทั้งหมด เกินราคาที่ 20 บาท ส่วนจะต้องอดหนุนเท่าไรนั้น ต้องคำนวณตัวเลขก่อน ส่วนที่อ้างว่า เมื่อราคาลดลงจะมีผู้โดยสารมากขึ้น ต้องมาเจรจากันก่อน โดยปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีผู้โดยสารเฉลี่ย 800,000 เที่ยว-คน/วัน เฉพาะเส้นทางสัมปทานหลัก ช่วงหมอชิต - อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ – สะพานตากสิน มีผู้โดยสารเฉลี่ย ประมาณ 600,000 เที่ยว-คน/วัน

ส่วนที่กระทรวงคมนาคมจะลดราคารถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่ - เตาปูน จะกระทบกับตัวเลขผู้โดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่ นายสุรพงษ์ตอบว่า นิดหน่อย คงไม่เยอะ

“จริงๆ รัฐบาลควรทำ 20 บาททั้งระบบ แต่เข้าใจ มันทำทีเดียวคงไม่ได้ ในส่วนของสายสีเขียว รัฐบาลต้องมาเจรจาให้ได้ก่อน อาจจะต้องแก้ไขสัญญา และอีกประเด็นคือ ส่วนสัมปทานหลัก ได้นำไปตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง (BTSGIF) จึงต้องขออนุมัติผู้ถือหน่วยลงทุนก่อน ถ้ามีเหตุผลอธิบายได้ ก็ไม่น่ายาก แต่อาจต้องใช้เวลา รวมไปถึงการปรับปรุงหัวอ่านซอฟต์แวร์ก่อน อย่างเร็วที่สุดก็น่าจะตามที่รมต.สุริยะบอก คือ 2 ปี” นายสุรพงษ์กล่าว