นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ หรือบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานของสายการบินฯ ยังมีทิศทางที่สดใสอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุดเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 125.6 จากตัวแปรสำคัญอย่างการเปิดประเทศของจีน ทำให้ในภาพรวมไตรมาสที่ 1 และ 2 บริษัทมีเที่ยวบินจำนวน 21,946 เที่ยว เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 103 เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยแนวโน้มของผู้โดยสารที่ให้บริการในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมามีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับช่วง Pre-Covid 19 ที่ 72% เที่ยวบินหลักอยู่ในเส้นทางเข้าออกสมุย รองลงมาคือเส้นทางบินภายในประเทศ และกลุ่มประเทศ CLMV ส่วนการจำหน่ายบัตรโดยสารส่วนใหญ่มาจาก BSP Agents / Interline Codeshare สัดส่วน 42% รองลงมาเป็นการขายผ่านเว็บไซต์ การขายบัตรโดยสารผ่านการเชื่อมต่อตรง และการขายบัตรโดยสารภายในประเทศไทย ตามลำดับ “จากที่บางกอกแอร์เวย์สได้ตั้งเป้าหมายยอดรวมผู้โดยสารในปี 2566 ไว้ที่ 4.4 ล้านคน ในช่วงครึ่งปีแรก 2566 นี้ได้ขนส่งผู้โดยสารไปแล้วกว่า 2 ล้านคน ขณะที่อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) อยู่ที่ร้อยละ 81 ถือว่ามีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นเกินความคาดหมาย จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 76% และจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นนี้ยังได้ตั้งเป้าหมายอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยไว้ใหม่ที่ 78% ขณะที่อัตราเฉลี่ยค่าบัตรโดยสารจากเป้าหมายที่วางไว้จนถึงสิ้นปี 3,400 บาทต่อที่นั่ง ครึ่งปีแรกมีอัตราเฉลี่ยเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 3,642 บาทต่อที่นั่ง จึงปรับเป้าหมายราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยทั้งปีที่ 3,700 บาทต่อที่นั่ง โดยบริษัทฯ ยังมั่นใจว่าในส่วนของรายได้ เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสาร และราคาบัตรโดยสารมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูง”
ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ให้บริการ 16 เส้นทางบินในประเทศ และ 5 เส้นทางระหว่างประเทศ โดยเส้นทางบินยอดนิยมที่ได้กลับมาเปิดให้บริการ คือ กรุงเทพฯ-มัลดีฟส์ ซึ่งได้เริ่มให้บริการไปแล้วตั้งแต่ 1 กันยายนที่ผ่านมา จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่ล่าสุด คือเส้นทางลำปาง-แม่ฮ่องสอน เมื่อ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา และเตรียมเปิดอีก 1 เส้นทางบินใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่เกาะสมุย ได้แก่ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-สมุย เริ่มบิน 29 ตุลาคม 2566 สำหรับเส้นทางสมุย-ฉงชิ่ง และสมุย-เฉิงตู อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติทำการบินจากทางรัฐบาลจีน ทั้งนี้ หากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาลที่คาดว่าจะสามารถเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ น่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวเช่นกัน
นายพุฒิพงศ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของแผนการตลาด บริษัทฯ ยังคงใช้กลยุทธ์ “สีฟ้าคือสีแห่งความสุข” ตอกย้ำผู้นำการส่งความสุขให้ทุกการเดินทางผ่านกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดยเฉพาะกิจกรรมหลักอย่าง บางกอกแอร์เวย์ส บูทีค ซีรีส์ 2023 ใน 4 สนาม ซึ่งมีความพิเศษในปีนี้มีเซเลบริตีที่มาร่วมสร้างความสุข สร้างสัมพันธ์กับคนในชุมชน พร้อมนำเสนอประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยสนามสุดท้ายจะจัดขึ้นที่ จ.สุโขทัย ซึ่งมีญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์เข้าร่วม โดยยังได้กระตุ้นการตลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงกีฬากับ “Bangkok Airways x Havaianas Surf Festival 2023” ณ เขาหลัก จ.พังงา พร้อมหนุนดีมานด์การท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะยอดนิยมกับ ”Wonder Island สมุย-พะงัน-เต่า End Year Sale 2023” ที่เสนอโปรโมชันราคาพิเศษ ตั๋วเครื่องบิน ที่พักระดับ 3-5 ดาว ทัวร์ สปา พื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า
สำหรับการดำเนินกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมการขาย ได้จัดโปรโมชันที่น่าสนใจเพื่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เช่น Double Date ในทุกๆ เดือน โปรโมชันบัตรโดยสารราคาพิเศษ สำหรับเส้นทางต่างประเทศและในประเทศ เช่น กรุงเทพฯ-มัลดีฟส์ และกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-สมุย อีกทั้งยังมีกลยุทธ์การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือ CRM เข้ามามีส่วนเสริมการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เช่น การเพิ่มแต้มคะแนนสะสมในรายการฟลายเออร์โบนัส เพื่อนำไปแลกเป็นส่วนลด หรือแลกรับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ และโปรโมชันฉลองครบรอบ 55 ปี ที่ผู้โดยสารสามารถโอนพอยต์บัตรเครดิตแลกตั๋วเครื่องบินกับรายการสะสมคะแนนฟลายเออร์โบนัสเพื่อแลกรับส่วนลดทันที 55% ทุกเส้นทางจนถึง 31 มกราคม 2567
“55 ปี ในการดำเนินธุรกิจของบางกอกแอร์เวย์สยังคงยกระดับการให้บริการด้วยกลยุทธ์ Connect Your Happiness ที่เน้นสร้างความสุขในทุกๆ การเดินทางจากการเป็นสายการบินที่ให้บริการแบบฟูลเซอร์วิส ในราคาที่คุ้มค่า อีกทั้งยังเพิ่มความยั่งยืนในหลากมิติตามเป้าหมาย “Low Carbon Skies by Bangkok Airways” นายพุฒิพงศ์กล่าว
ส่วนเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมุ่งดำเนินงานตั้งแต่ในส่วนของสนามบินภายใต้การบริหารงานทั้ง 3 แห่ง (สมุย สุโขทัย ตราด) ให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การวางแผนใช้น้ำมันอากาศยานที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องตามแนวทางของบริษัทฯ การลดใช้พลาสติกในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และนำเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากการรีไซเคิลขวดพลาสติกมาใหม่เป็นของที่มีคุณค่า เช่น เสื้อวิ่งรายการบูทีคซีรีส์ การนำยูนิฟอร์มเก่ามาอัปไซคลิ่งเป็นผ้ากันเปื้อนสำหรับพนักงานที่ให้บริการในเลานจ์ มีการสนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้า-พลังงานหมุนเวียนในสนามบินด้วยแนวคิด Go Green On Ground และเตรียมพิจารณาเปลี่ยนอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้นที่ใช้งานภายในสนามบินเป็นแบบไฟฟ้า ล่าสุดยังได้รับการพิจารณาผ่านเกณฑ์ประเมินสำหรับรางวัลการันตี "ดาวแห่งความยั่งยืน" ระดับ 5 ดาว ในโครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating โดย ททท.อีกด้วย