กรมทางหลวงเตรียมส่งสำนักงบประมาณ เพิ่มวงเงินมอเตอร์เวย์ "บางปะอิน-นครราชสีมา" อีก 1.7 พันล้านบาท หลัง ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปรับแบบ 14 ตอนที่ ครม.ยังไม่ได้อนุมัติ ในส่วนเนื้องานที่ก่อสร้างไปแล้ว ยืนยันปริมาณงานและวงเงินถูกต้อง และค่าก่อสร้างยังไม่เกินกรอบวงเงินโครงการที่ 6.99 หมื่นล้านบาท
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า จากที่โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา หรือมอเตอร์เวย์ (M6) มีการปรับรูปแบบโครงการ กรณีที่มีปัญหาอุปสรรคในบางตอน ทำให้ต้องมีการแก้ไขปรับปรุงแบบก่อสร้างให้มีความเหมาะสม ซึ่งก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติการเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณจำนวน 12 ตอน (สัญญา) วงเงิน 4,970.70 ล้านบาท แล้วนั้น โดย ทล.ได้เร่งผู้รับจ้างทำการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วนั้น
ทั้งนี้ ยังมีงานก่อสร้างที่ได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน วงเงินประมาณ 1,785 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้รับอนุมัติเพิ่มวงเงิน โดย ครม.มีมติให้ ทล.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายละเอียดทั้งในส่วนของเนื้องาน ปริมาณงานและวงเงินถูกต้อง และความรับผิดชอบของบริษัทผู้รับจ้างคู่สัญญาให้มีความละเอียดรอบคอบ ซึ่งล่าสุดได้ดำเนินการเสร็จแล้ว และนำรายงานต่ออธิบดีกรมทางหลวงพิจารณาแล้ว โดยในสัปดาห์นี้จะทำเรื่องเสนอไปยังสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ หลังสำนักงบประมาณพิจารณาแล้วเสร็จ ทล.จะสรุปเรื่องเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณานำเสนอ ครม.ต่อไป
สำหรับโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างงานโยธาออกเป็น 40 ตอน (สัญญา) มีประเด็นแก้ไขแบบก่อสร้าง 16 ตอน โดยแบ่งเป็น 3 ลักษณะ คือ 1. ยังไม่ได้ก่อสร้างส่วนที่ปรับปรุงแบบ จำนวน 2 ตอน (ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินแล้ว) 2. มีการก่อสร้างส่วนที่ปรับปรุงแบบไปแล้วบางส่วน จำนวน 10 ตอน (ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินเฉพาะงานที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง ส่วนที่ก่อสร้างไปแล้วยังไม่ได้อนุมัติ) 3. มีการก่อสร้างส่วนที่ปรับปรุงแบบแล้วทั้งหมด จำนวน 4 ตอน (ยังไม่ได้รับอนุมัติเพิ่มวงเงิน)
ดังนั้น ในการเสนอขอเพิ่มวงเงินประมาณ 1,785 ล้านบาท จึงสำหรับเนื้องานที่ได้มีการก่อสร้างเสร็จแล้ว มีทั้งหมด 14 ตอน (10 ตอน +4 ตอน )
สำหรับโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร มีวงเงินลงทุน 76,580 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2559 ครม.เห็นชอบโครงการและกรอบวงเงินค่าก่อสร้าง 69,950 ล้านบาท ค่าเวนคืน 6,630 ล้านบาท โดยแบ่งการก่อสร้างงานโยธาออกเป็น 40 ตอน (สัญญา) ซึ่งประมูลและลงนามสัญญาผู้รับจ้าง วงเงินประมาณ 59,000 ล้านบาททำให้ยังเหลือกรอบวงเงินอีกราว 10,000 ล้านบาท โดยการปรับปรุงแบบก่อสร้างทำให้มีการปรับเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างไปแล้ว 4,970 ล้านบาท รวมกับที่เหลืออีก 1,785 ล้านบาท รวมเป็น 6,755 ล้านบาท ก็ยังอยู่ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ ครม.อนุมัติ
สาเหตุที่ทำให้มีการปรับแบบ เนื่องจากอุปสรรค 4 ประเด็น ได้แก่ 1. สภาพพื้นที่ในสนามที่ทำการก่อสร้างได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 2. ปรับปรุงรูปแบบทางวิศวกรรมให้สอดคล้องกับสภาพทางกายภาพของพื้นที่ในปัจจุบัน 3. ปรับรูปแบบให้เหมาะสมสอดคล้องกับโครงสร้างสาธารณูปโภค หรือความจำเป็นของหน่วยงานที่โครงการฯ ตัดผ่าน 4. ปรับรูปแบบการก่อสร้างเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ และให้สอดคล้องกับโครงข่ายถนนที่ประชาชนใช้ทางในปัจจุบัน