“กลุ่มน้ำตาลไทยรุ่งเรือง” เดินหน้าเคียงคู่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ให้เติบโตไปด้วยกัน เร่งจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร สู่เป้าหมาย Net Zero ปี 2050
กว่า 76 ปี ของกลุ่มน้ำตาลไทยรุ่งเรือง หรือ บริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตน้ำตาลเอกชนรายแรกของเมืองไทย แบรนด์ที่หลายคนรู้จักกันดีในนาม “TRR” และ “Lin” ที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ขับเคลื่อนวงการน้ำตาลไทย ซึ่งนับว่าไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของเอเชีย
“ทุกเมนู ไม่ใช่ว่าใช้น้ำตาลอะไรก็ได้ แล้วอาหารจะอร่อย แต่ละเมนูจะมีน้ำตาลชนิดพิเศษที่ทำออกมาแล้วเมนูนั้นจะอร่อยขึ้น” คุณอัจฉรา งานทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จำกัด ได้บอกเล่าถึงแนวคิดของการสร้างสรรค์และครีเอทน้ำตาลรูปแบบต่างๆในความเป็น Sweet Creation ตัวจริงเรื่องน้ำตาล รวมถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มให้ความหวานทดแทนน้ำตาลที่ปรับตัวตามเทรนด์ของผู้บริโภคกลุ่มคนรักสุขภาพ
ซึ่งนอกจากผู้บริโภคจะเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่บริษัทให้ความสำคัญแล้ว “ต้นน้ำ” ของอุตสาหกรรม ก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นการวางรากฐานของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพ สานต่อไปจนถึงเรื่องของการสร้างความยั่งยืน “เกษตรกรชาวไร่อ้อย” ของบริษัทที่ได้รับการดูแลเสมือนคนในครอบครัว พร้อมกับนโยบายมุ่งพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ด้วยการมุ่งเน้นการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน และหลักธรรมาภิบาลที่เน้นความรับผิดชอบต่อสังคม ตั้งแต่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพ ด้วยกระบวนการผลิต ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการสิ่งแวดล้อมและคนในชุมชนรอบข้าง ที่สำคัญกระบวนการผลิตน้ำตาลในโรงงานของไทยรุ่งเรือง เป็นไปตามแนวทาง zero waste โดยการนำกากอ้อยไปทำเป็นพลังงานเชื้อเพลิงหมุนเวียนในโรงงาน และมีการบริหารน้ำใช้ที่เก็บกักจากน้ำฝน สำหรับใช้หมุนเวียนในกระบวนการผลิตของโรงงาน โดยไม่ต้องสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
“การส่งเสริมวัตถุดิบที่ยั่งยืน ด้วยการจัดทำโครงการ BONSUCRO มาตรฐานการผลิตอ้อยและน้ำตาลยั่งยืน” ถือเป็นโครงการหลัก ที่ปูแนวทางให้เกษตรกรสามารถจัดการไร่อ้อยได้อย่างยั่งยืน ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตอ้อยและน้ำตาลระดับโลก BONSUCRO ถึง 4 แห่ง จาก 6 แห่ง ของกลุ่มน้ำตาลไทยรุ่งเรือง ส่งผลให้เกษตรกรได้เรียนรู้วิธีการจัดการในไร่อ้อยอย่างถูกต้อง ตั้งแต่การเตรียมดิน การปลูก การดูแล การใช้เครื่องจักรกล ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังช่วยเพิ่มผลผลิตอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการอบรมเกษตรกรในการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล PPE เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยในไร่อ้อย ซึ่งคุณอัจฉรายอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าไปพูดคุยให้เกษตรกรเข้าใจและร่วมโครงการ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจของบริษัท จึงค่อยๆทำความเข้าใจและสื่อสารกับเกษตรกร ส่งเสริมให้มีรายได้อย่างยั่งยืนด้วยการจัดการไร่อ้อยแบบไม่ทำลายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม คุณอัจฉรายังกล่าวถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกว่า “หากไม่เริ่มเปลี่ยนแปลง ผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนเดิม และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่า”
ทั้งนี้บริษัทยังมีเป้าหมายในการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร เพื่อจะได้ทราบว่าในกระบวนการผลิตของบริษัทมีการปลดปล่อยคาร์บอนในส่วนไหน เพื่อหาวิธีการจัดการ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าจะได้การรับรองภายในปีนี้ รวมถึงตั้งเป้าหมายสู่ Net zero ในปี 2050 ซึ่งถือเป็นแผนระยะยาวในการสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้น
นอกจากนี้ คุณอัจฉรายังกล่าวอีกว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจ แต่การมีเน็ตเวิร์คที่กว้างขวาง ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยกลุ่มน้ำตาลไทยรุ่งเรือง ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Thailand Supply Chain Network (TSCN) เครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย ที่เป็นการรวมตัวขององค์กรเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์จากการลงทุน เพิ่มพูนการลงทุนระหว่างกัน รวมถึงTSCN Platform เครือข่ายสังคมธุรกิจออนไลน์ที่เชื่อมโยงพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพจากหลากหลาย อุตสาหกรรมเข้าด้วยกันในแพลตฟอร์มเดียว เป็นข้อดีที่ทำให้สามารถค้นหาธุรกิจอื่นๆ และเชื่อมโยงได้อย่างง่ายดาย พร้อมเชิญชวนกลุ่มบริษัทอื่นๆ มาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ TSCN ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจได้เติบโตขึ้น
#TSCN #ThailandSupplyChainNetwork #sustainability