ผู้จัดการรายวัน 360- ยันฮี อัดงบ 100 ล้านบาท รีโนเวท 4 ตึก พร้อมส่ง “เครื่องดื่ม ยันฮี แคลเชียม วอเตอร์” ลงศึกน้ำวิตามิน มาพร้อมกลยุทธ์ 'Trial เปีดรับอาสาสมัครที่มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน จำนวน 100 ท่าน ทคลองดื่มน้ำยันฮี แคลเชียม ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน มั่นใจรั้งเบอร์ต้นๆ ของตลาดน้ำวิตามิน 1,900 ล้านบาทไว้ได้
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด เปิดเผยว่า ยันฮีเปิดให้บริการธุรกิจโรงพยาบาลมากว่า 38 ปี โดยก่อนโควิดผู้ใช้บริการ 30% เป็นต่างชาติ ช่วงโควิดลดลงเหลือ 5% และหลังโควิดหรือในปัจจุบันต่างชาติกลับมาที่ 15% ส่วนใหญ่เป็นเมียนมา กัมพูชา และจีน ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่สุด
ทั้งนี้ยันฮีมีแผน 3 ปี (2565-2567) ที่จะใช้งบกว่า 100 ล้านบาท ในการรีโนเวทและพัฒนาทั้ง 4 ตึกให้ทันสมัย ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี และเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะนำเข้ามาให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปัจจุบันยันฮีได้มีการเปิดศูนย์การแพทยกว่า 37 ศูนย์ เช่น ศูนย์หัวใจ ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ และศูนย์ผู้สูงอายุยันฮี และมีการต่อยอดธุรกิจโรงพยาบาลไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เวชสำอาง สมุนไพร น้ำกัญชา และเครื่องดื่มผสมวิตามิน โดยภาพรวมปีนี้มองว่ากลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลจะมีรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน ปิดที่ 2,000 ล้านบาท
นพ.สุพจน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของธุรกิจเครื่องดื่มวิตามินนั้น มีทั้งผลิตเอง และร่วมทุนกับทางโอสถสภามีอยู่ 2 ผลิตภัณฑ์ คือ น้ำกัญชายันฮี และ ยันฮี แคลเชียม วอเตอร์ ขณะที่ปีนี้จะมีออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอีก 2 ตัว เช่น แอลคานิทีน วอเตอร์ ซึ่งตัวนี้ทำเอง จะเปิดตัวช่วงไตรมาสสี่ และอีกตัวร่วมกับทางโอสถสภา
อย่างไรก็ตาม สำหรับยันฮี แคลเชียม วอเตอร์ พัฒนาโดยมีแนวคิดเพื่อมุ่งตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเสริมแคลเซียม แต่อาจประสบปัญหาในการทานแคลเซียม โดยใช้ Calcium Glycerophosphate ที่เป็น organio sall จาก ISALTIS สถาบันผู้เชี่ยวชาญจากฝรั่งเศส ซึ่งมีคุณสมบัติดูดซึมง่ายกว่าแคลเซียมปกติ (Calcium Carbonate) ถึง 4 เท่า มีกลิ่นหอมของโยเกิร์ตช่วยให้สดชื่น ดื่มได้ทุกวัน เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ตลอดจนผู้สูงวัยและผู้ที่ต้องการเสริมสร้างแคลเซียม
“การเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มวิตามินผสมแคลเซียมในครั้งนี้ เราต้องการทำให้ผู้บริโภคทราบถึงประโยชน์และภัยเงียบหากขาดแคลเซียม โดยได้รับเกียรติจากนายแพทย์สุชาติ เลาบริพัตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน และแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย มาร่วมให้ความรู้รวมถึงแซร์ Case Study จริง เพื่อให้คนไทยทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของแคลเซียม และไฮไลท์สำคัญ คือ เราได้เปิดรับอาสาสมัครที่มีช่วงอายุภู 30 - 60 ปี เพื่อมาทดลองดื่มน้ำยันฮีแคลเซียมวอเตอร์ ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมวัดผลค่ามวลกระดูกก่อนและหลังดื่มน้ำแคลเซียมต่อเนื่องทุกวันเพื่อดูผลลัพธ์”
ด้านทพญ.สุชาวดี สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ และบริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวต่อว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดน้ำดื่มวิตามินในไทยมีมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านบาท ซึ่งแบรนด์ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ ยังคงมีสัดส่วนอยู่ในอันดับต้นๆ หรืออยู่ในกลุ่มท็อป 3 ซึ่งยันฮี แคลเชียม วอเตอร์ จัดอยู่ในกลุ่มน้ำวิตามิน และถือเป็นนวัตกรรมน้ำดื่มแคลเซียมเจ้าแรกในไทย บรรจุในขวดใสสะอาดขนาด 460 ml. วางจำหน่ายแล้วที่ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ และจะขยายสู่ช่องทาง Modern Trade อื่นๆ รวมถึงจะมีขนาด 350ml. ที่จะวางขายในช่องทางร้านค้าทั่วประเทศเร็วๆนี้อีกด้วย
“การเปิดตัว ยันฮี แคลเชียม วอเตอร์ ครั้งนี้ มาพร้อมกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้ง online และ offline โดยครึ่งปีหลังจะเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับแคลเซียมผ่านแพทย์เฉพาะทางและ ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนใช้กลยุทธ์ Trial ด้วยการเปิดรับอาสาสมัครให้มาทดลองดื่ม ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ สร้างความคุ้นเคยในตัวสินค้า และวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น ทั้งยังเป็น Feedback ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีแผนจัดกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบ Sampling Activation สร้างการเข้าถึงยังกลุ่มเป้าหมายเพิ่ม ตลอดจนเน้นสร้างการรับรู้ของผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมให้ความรู้และชี้ให้เห็นความสำคัญของแคลเซียม” พญ.สุชาวดี กล่าว.