การรถไฟฯ จัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยว รถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ เส้นทางกรุงเทพ–อยุธยา–กรุงเทพและจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2566
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ เส้นทาง กรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2566 โดยมีผู้บริหารการรถไฟฯ เจ้าหน้าที่ นักท่องเที่ยว ประชาชน พร้อมสื่อมวลชนเข้าร่วมพิธีฯ
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปิดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยว รถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ เป็นการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎร
ในโอกาสนี้ การรถไฟฯ จึงได้เปิดให้ประชาชนได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
ที่มีต่อปวงชนชาวไทย โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางท่องเที่ยวผ่านขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์แบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว เริ่มนำมาใช้งานตั้งแต่ปี 2492 ซึ่งปัจจุบันได้เก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี และจะนำมาจัดเดินขบวนรถนำเที่ยว 1 ใน 6 โอกาสพิเศษและวันสำคัญเท่านั้น
จากนั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับ บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยผู้ว่าการรถไฟฯ นำคณะผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง จิตอาสา 904 การรถไฟแห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาคเอกชน ร่วมกันทำความสะอาดพื้นที่ภายในสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด กำจัดเชื้อโรค และอุปกรณ์ทำความสะอาดจากเดทตอล มาใช้ในการ
ทำความสะอาดพื้นที่ภายในสถานี บริเวณชานชาลา เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ห้องสุขา ลิฟต์ ราวบันได รวมถึงขบวนรถโดยสารต่างๆ เพื่อให้มีความสะอาด สวยงาม รองรับการเดินทางของผู้โดยสารที่มาใช้บริการซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปฏิบัติใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนสืบไป