แรงเกินต้าน นักท่องเที่ยวสุดปลื้มรถไฟ KIHA 183 ยอดตั๋วเต็มทุกเสาร์ อาทิตย์ รฟท.เตรียมนำ KIHA 183 ขบวนที่ 2 ออกให้บริการกลางเดือน ส.ค.นี้ พร้อมเปิดโปรแกรม "พิรุณโปรยปราย เที่ยวสบายๆ กลางสายฝน" เดือน ก.ย.ทริป "นั่งรถไฟอิ่มบุญ ปันรอยยิ้ม"
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตาม นโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มอบหมายให้การรถไฟฯ บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ภาครัฐ ภาคเอกชน จังหวัดต่างๆ เพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยจัดโปรแกรมท่องเที่ยวสุดพิเศษนำขบวนรถไฟ KIHA 183 มาจัดเดินรถท่องเที่ยวต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งแบบไปเช้ากลับเย็น และแบบพักค้างคืน โดยแต่ละเดือนจัดโปรแกรมการท่องเที่ยว หลากหลายสไตล์ เพื่อเปิดประสบการณ์ให้นักเดินทางได้สัมผัสการท่องเที่ยวทางรถไฟ ซึ่งแต่ละทริปได้รับกระแสตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
ล่าสุดโปรแกรมท่องเที่ยวพิรุณโปรยปราย เที่ยวสบายๆ กลางสายฝน นอนชมดาว@ชัยภูมิ (2 วัน 1 คืน) ของวันที่ 5-6 สิงหาคม และ 12-13 สิงหาคม 66 โดยเปิดให้จองตั๋วล่วงหน้าเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ถูกจองเต็มทั้งหมดภายใน 5 นาที การรถไฟฯ ขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความสนใจและร่วมเดินทางท่องเที่ยวไปกับขบวนรถไฟ KIHA 183 โดยขณะนี้ฝ่ายการช่างกลอยู่ระหว่างดำเนินการทดสอบขบวนรถ KIHA 183 ขบวนที่ 2 ที่ปรับปรุงแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถนำมาให้บริการเพิ่มเติมให้แก่นักท่องเที่ยวได้ประมาณช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้
การรถไฟฯ ขออัปเดตโปรแกรมท่องเที่ยวในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 พร้อมกับวันเริ่มเปิดให้จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า (สามารถจองตั๋วล่วงหน้าก่อนวันเดินทางได้ไม่เกิน 30 วัน) เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เตรียมตัววางแผนเดินทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เดือนสิงหาคม คอนเซ็ปต์ : พิรุณโปรยปราย เที่ยวสบายๆ กลางสายฝน มาร่วมกันเปลี่ยนหน้าฝนนี้ให้เป็นหน้าฝนที่น่าเที่ยว
- วันที่ 19 สิงหาคม 2566 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “รับลมฝน ยลเสน่ห์ย่านเมืองเก่า เสพงานศิลป์ ที่แปดริ้ว” เริ่มจองตั๋ววันที่ 20 กรกฎาคม 2566
- วันที่ 20 สิงหาคม 2566 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “รับลมฝน ยลเสน่ห์ย่านเมืองเก่า เสพงานศิลป์ ที่แปดริ้ว” เริ่มจองตั๋ววันที่ 21 กรกฎาคม 2566
- วันที่ 26-27 สิงหาคม 2566 (แบบพักค้างคืน) โปรแกรม “พิรุณโปรยปราย เที่ยวสบายๆ @ กาญจนบุรี เริ่มจองตั๋ววันที่ 28 กรกฎาคม 2566
เดือนกันยายน คอนเซ็ปต์ : นั่งรถไฟอิ่มบุญ ปันรอยยิ้ม” เที่ยวกันทั้งทีต้องดีต่อใจ การรถไฟฯ ชวนเที่ยวทำบุญและแบ่งปันรอยยิ้มให้กับน้องๆ ตามแบบฉบับคนอิ่มบุญ
- วันที่ 2 กันยายน 2566 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “เที่ยวลพบุรี อิ่มบุญ ปันรอยยิ้ม @ วัดพระบาทน้ำพุ” เริ่มจองตั๋ววันที่ 3 สิงหาคม 2566
- วันที่ 3 กันยายน 2566 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “เที่ยวลพบุรี อิ่มบุญ ปันรอยยิ้ม @ วัดพระบาทน้ำพุ” เริ่มจองตั๋ววันที่ 4 สิงหาคม 2566
- วันที่ 9 กันยายน 2566 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “ทริปอิ่มบุญ ปันรอยยิ้มให้น้อง @ นครปฐม เริ่มจองตั๋ววันที่ 10 สิงหาคม 2566
- วันที่ 10 กันยายน 2566 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “ทริปอิ่มบุญ ปันรอยยิ้มให้น้อง @ นครปฐม เริ่มจองตั๋ววันที่ 11 สิงหาคม 2566
- วันที่ 16 กันยายน 2566 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “ทริปอิ่มบุญ ปันรอยยิ้มให้น้อง @ราชบุรี เริ่มจองตั๋ววันที่ 17 สิงหาคม 2566
- วันที่ 17 กันยายน 2566 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “ทริปอิ่มบุญ ปันรอยยิ้มให้น้อง @ราชบุรี เริ่มจองตั๋ววันที่ 18 สิงหาคม 2566
- วันที่ 23 กันยายน 66 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “ทริปอิ่มบุญ ปันรอยยิ้มให้น้อง @ฉะเชิงเทรา เริ่มจองตั๋ววันที่ 24 สิงหาคม 2566
- วันที่ 24 กันยายน 66 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “ทริปอิ่มบุญ ปันรอยยิ้มให้น้อง @ฉะเชิงเทรา เริ่มจองตั๋ววันที่ 25 สิงหาคม 2566
- วันที่ 30 กันยายน 66 (ไปเช้ากลับเย็น) โปรแกรม “ทริปอิ่มบุญ ปันรอยยิ้มให้น้อง @เพชรบุรี เริ่มจองตั๋ววันที่ 31 สิงหาคม 2566
สำหรับทุกทริปที่เดินทาง นักท่องเที่ยวทุกท่านจะได้รับบริการอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเครื่องดื่ม และอาหารกลางวัน ตลอดจนรับของที่ระลึกสุดพิเศษจากการรถไฟฯ พร้อมกับมีมัคคุเทศก์บรรยาย และเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ให้บริการอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง ซึ่งหากท่านที่สนใจต้องการเปิดประสบการณ์นั่งรถไฟ KIHA 183 ซึ่งมีจำนวนจำกัด 200 ที่นั่งต่อทริปเท่านั้น สามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าก่อนวันเดินทางได้ไม่เกิน 30 วัน ได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือผ่านระบบ D-Ticket หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
“การรถไฟฯ ขอขอบคุณนักท่องเที่ยวที่ให้ความไว้วางใจในการเดินทางด้วยขบวนรถไฟ KIHA 183 การรถไฟฯ จะยังคงเดินหน้าจัดโปรแกรมท่องเที่ยวที่หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เปิดประสบการณ์กับเส้นทางใหม่ๆ ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน”
