บีโอไอ เดินหน้าดึงการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ ‘GAC AION’ ย้ำใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญในอาเซียน เงินลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท มุ่งส่งเสริมการลงทุนแบบบูรณาการ ร่วมมือ 7 หน่วยงานภาครัฐ - เอกชนประกอบด้วย กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร สศอ. กนอ. กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากรมการขนส่งทางบก และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย ประสานพลังอำนวยความสะดวกแก่ ‘GAC AION’ ในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก บีโอไอได้ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรม EV แบบครบวงจร รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจในไทย ล่าสุดได้ดึงการลงทุนจากบริษัท GAC AION New Energy Automobile หรือ GAC AION ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศจีน ด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 2.7 แสนคันในปี 2565 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 6 แสนคันในปีนี้ โดยบริษัทได้ตอบรับเดินหน้าลงทุนครั้งใหญ่ในประเทศไทย โดยจะใช้เงินลงทุนในเฟสแรกกว่า 6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 บีโอไอได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐ และภาคเอกชน 7 หน่วยงาน ประกอบด้วยผู้แทนจากกรมสรรพสามิต กรมศุลกากร สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการขนส่งทางบก และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับคอน) ร่วมกันให้ข้อมูลแก่บริษัท เพื่อสร้างความชัดเจนและความเชื่อมั่นในการเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญในภูมิภาคอาเซียน
“การประชุมร่วมกันระหว่างบริษัท GAC AION กับบีโอไอและอีก 7 หน่วยงานในครั้งนี้ ถือเป็นวาระสำคัญที่บีโอไอได้ผนึกหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้อมูลและคลายข้อสงสัยของนักลงทุนในรูปแบบ One Stop Service ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน โดยในที่ประชุมได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ข้อกำหนดเกี่ยวกับเขตปลอดอากรและเขตประกอบการเสรี การจัดตั้งบริษัทในไทย การจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า การจัดหาผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ได้มาตรฐานในประเทศ และมาตรการสนับสนุนของหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ และมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของกระทรวงการคลัง (EV 3) รวมทั้งร่างมาตรการใหม่ (EV 3.5) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ GAC AION มากยิ่งขึ้น” นายนฤตม์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท GAC AION New Energy Automobile เป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำอันดับต้นๆของประเทศจีนและของโลก มีความโดดเด่นในด้านนวัตกรรมยานยนต์ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และยานยนต์เชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Connected Vehicles: ICV) เช่น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่รองรับการขับขี่ได้มากกว่า 1,000 กม. ระบบขับขี่อัจฉริยะและเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ ระบบการผลิตแบบอัตโนมัติด้วยความเร็วสูง นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบบ High - end Luxury Supercar ที่เร็วที่สุดในโลก สามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ภายใน 1.9 วินาที รวมถึงเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้พัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และร่วมทุนผลิตและจำหน่ายรถยนต์กับบริษัทระดับโลก เช่นโตโยต้า ฮอนด้า เป็นต้น
นายหม่า ไห่หยาง ผู้จัดการทั่วไปด้านธุรกิจระหว่างประเทศ บริษัท GAC AION New Energy Automobile ซึ่งเป็นผู้บริหารที่รับผิดชอบโครงการลงทุนในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทขอขอบคุณสำนักงานบีโอไอ ที่ได้จัดการประชุมและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเกี่ยวกับการลงทุนของโครงการรถยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้ และขอขอบคุณหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อตอบข้อสงสัยและให้ความกระจ่างในจุดต่าง ๆ การสนับสนุนของภาครัฐในการประชุมในวันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการเริ่มต้นการดำเนินธุรกิจและการลงทุนของบริษัท GAC AION ในประเทศไทย