บีไอจีลงนามความร่วมมือกับ “เมอแรนติ กรีน สตีลฯ” เดินหน้าโครงการโรงผลิต Green Steel แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศไทย การใช้ก๊าซอุตสาหกรรมทั้งไนโตรเจนและออกซิเจนคาร์บอนต่ำ รวมถึงการร่วมมือสู่การผลิตและใช้ Green Hydrogen ในอนาคต
นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (บีไอจี) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) กับ บริษัท เมอแรนติ กรีน สตีล ไพรเวท ลิมิเต็ท เพื่อดำเนินการโครงการ Green Steel โดยจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านก๊าซอุตสาหกรรม ทั้งออกซิเจนคาร์บอนต่ำ ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำ และ Green Hydrogen ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อป้อนเข้าสู่โรงงานผลิตเหล็ก
“โรงงานผลิต Green Steel แห่งนี้ตั้งเป้าในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 3 ล้านตันต่อปี เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เทคโนโลยีการผลิตเหล็กแบบดั้งเดิม”
นายปิยบุตรกล่าวว่า บีไอจี เป็นบริษัทในเครือแอร์โปรดักต์ จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนในประเทศไทย โดยลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ Climate Technology รวมถึงการผลิตก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ ความร่วมมือกับ เมอแรนติ กรีน สตีล ในโครงการ Green Steel ครั้งนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตเหล็กเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยของบีไอจี เช่น ออกซิเจนคาร์บอนต่ำ ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำ และ Green Hydrogen มาสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) สำหรับภาคอุตสาหกรรมไทย ซึ่งถือเป็นความร่วมมือที่นำไปสู่การพัฒนาโครงการที่ยั่งยืนอีกหนึ่งโครงการในประเทศไทย
นายเซบาสเตียน แลงเกนดอร์ฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมอแรนติ กรีน สตีล ไพรเวท ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของประเทศสิงคโปร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการต่อยอดเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับพันธมิตร ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร่วมมือกับบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในด้านการใช้พลังงานทดแทนเพื่อใช้ผลิตเหล็ก โดย GPSC และเมอแรนติ กำลังร่วมมือกันทางด้านการวิจัยและพัฒนาวิธีการใช้พลังงานทดแทนสำหรับการผลิต Green Steel และการใช้ Green Hydrogen ในอนาคต ขณะที่บีไอจีและแอร์โปรดักต์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีก๊าซอุตสาหกรรมและเป็นผู้ผลิตก๊าซไฮโดรเจนที่ใหญ่ที่สุดในโลกรวมถึงประเทศไทย จะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการกระบวนการผลิตและการใช้ Green Hydrogen ในโครงการนี้ เมอแรนติ สตีล จึงมีความยินดีที่จะร่วมงานกับบีไอจีในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนต่อไป
โครงการ Green Steel ของเมอแรนติ กรีน สตีลนั้น แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ และไทย ที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ซึ่งในปัจจุบันมีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลกถึง 7%