xs
xsm
sm
md
lg

เบโด้ ส่งเสริม “กาแฟขี้ชะมด” สร้างเศรษฐกิจชุมชน และสนับสนุนการเรียนรู้ธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพ (Community BioBank) จ.กระบี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO (เบโด้) เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจจากความหลากหลายทางชีวภาพ ภายใต้แนวคิด BEDO – BCG ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนด้วย “การท่องเที่ยวชีวภาพ” ตั้งเป้าสร้างงาน – สร้างรายได้จากการใช้ประโยชน์ และสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรชีวภาพ การแลกเปลี่ยนในเชิงธุรกิจและการท่องเที่ยว และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน


นาง สุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ หรือ เบโด้ (BEDO) สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงภารกิจขององค์กรว่า “เบโด้ มีภารกิจสนับสนุนส่งเสริมให้ชุมชนนำทรัพยากรชีวภาพที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาพัฒนาให้เกิด “คุณค่าและประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ” ควบคู่ไปกับ “การอนุรักษ์” เพื่อให้ทรัพยากรชีวภาพคงอยู่ และสามารถใช้ประโยชน์ได้ในรุ่นลูกหลานต่อไป โดยการพัฒนาเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้ชุมชนที่เชื่อมโยงกับความคงอยู่ของทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนชุมชนสู่โมเดลเศรษฐกิจใหม่ที่เรียกว่า BEDO-BCG อันเป็นกิจกรรมที่ “เครือข่ายชุมชนเบโด้” ครอบคลุมทั้ง เศรษฐกิจชีวภาพ (B) เศรษฐกิจหมุนเวียน (C) และเศรษฐกิจสีเขียว (G) เนื่องจากทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และส่งเสริมด้านการพัฒนาสินค้าจากความหลากหลายของทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อสร้างเศรษฐกิจและสร้างความยั่งยืนให้ผู้คนในชุมชน”


“เบโด้” ยังได้ดําเนินงานด้าน “ธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน” (Community BioBank) เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลและจดบันทึกการเติบโตของต้นกาแฟโรบัสต้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ด้วยสัดส่วนประมาณ 20% รอง จากสายพันธุ์อราบิก้า โดยพื้นที่ที่เหมาะกับการปลูกกาแฟสายพันธุ์นี้ต้องเป็นพื้นที่ที่มีอากาศชุ่มชื้น เช่น ชุมพร ระนอง กระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช สำหรับจังหวัดกระบี่มีพื้นที่ปลูกกาแฟอยู่ 3 อําเภอ คือ ลําทับ, คลองท่อม และปลายพระยา เฉพาะในชุมชนลําทับมีไร่กาแฟประมาณ 100 ไร่ ไร่ละ 200 ต้น โดยที่การปลูกกาแฟส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นสวนผสม โดยมีต้นกาแฟเป็นหลักและปลูกผลไม้แซม อาทิ กล้วย ลองกอง มังคุด ทุเรียน ส่วนหนึ่งเพื่อเก็บไว้กินในครัวเรือน และสามารถนำผลผลิตส่วนเกินนั้นมาขายสร้างรายได้ให้กับวิสาหกิจชุมชน


นอกจากนี้ เบโด้ ยังให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ “กาแฟขี้ชะมด Chamone” ถือเป็นอีกหนึ่งผลผลิตที่สร้างเศรษฐกิจให้คนในพื้นที่ โดยมี นาย พิศิษฏ์ เป็ดทอง ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์เรียนรู้ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บ้านดินแดง ต.ดินแดง อ.ลําทับ จ.กระบี่ และเป็นผู้บุกเบิกการผลิตกาแฟขี้ชะมดแบรนด์ Chamone จนเป็นที่รู้จัก ทำหน้าที่เป็นวิทยากรแบ่งปันความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงเมล็ดกาแฟว่าใช้วิธีเพาะเมล็ดจนถึงการเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟ 


นาย พิศิษฏ์ กล่าวว่า “ในรอบปีกาแฟจะออกดอก เริ่มติดลูกเมล็ดกาแฟในช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ และสามารถเก็บเกี่ยวได้ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม คอกาแฟต้องลองสัมผัสกับ “กาแฟขี้ชะมด” เป็นกาแฟขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย มีความหอมละมุน นุ่มลิ้น คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของกาแฟขี้ชะมดที่แตกต่างจากกาแฟทั่วไป และวิสาหกิจชุมชนที่นี่เพิ่งปลูกกาแฟเป็นปีที่ 3 ดังนั้น ปีหน้าผลผลิตของกาแฟจะให้ผลลัพธ์อย่างเต็มที่ในปีที่ 4 เป็นต้นไป” ให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมการปลูกกาแฟแบบสวนผสม เนื่องจากกาแฟขี้ชะมดราคาสูงถึง 2 หมื่นบาท/กก. ราคาขายต่อช็อตอยู่ที่ 300 บาท ทำให้เกิดเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ดีให้แก่คนในชุมชน ทั้งนี้ BEDO ให้การส่งเสริม และพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่การสร้างความเข้มแข็งภายในชุมชนที่มีความสามารถพึ่งพาตนเองได้ ควบคู่กับการฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรชีวภาพอย่างยั่งยืน
กำลังโหลดความคิดเห็น