xs
xsm
sm
md
lg

BGC ตอกย้ำผู้นำการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โชว์ศักยภาพ ในงาน ProPak Asia 2023

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ บีจีซี (BGC) เครือบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) ถือเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจร (Total Packaging Solutions) ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยมีพันธกิจมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสู่ความยั่งยืนผ่านบรรจุภัณฑ์ที่ได้สร้างสรรค์และออกแบบขึ้น เพื่อตอบโจทย์ทางด้านการใช้งาน ความสวยงาม อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับโลกธุรกิจและสอดรับกับแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ BGC ยังได้นำนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน มาจัดแสดงในงาน ProPak Asia 2023 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “BGC Sustainovation Gallery” ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14-17 มิถุนายน พ.ศ. 2566 พร้อมเผยถึงกลยุทธ์สู่การเป็นผู้นำการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน


กลยุทธ์สู่ความเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรที่ยั่งยืน

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บีจีซี (BGC) ได้เผยถึงความเป็นมาและแนวทางของบริษัทว่ามีด้วยกัน 2 ประการ คือ “Innovation” และ “Sustainability” นั่นก็คือ “นวัตกรรม” และ “ความยั่งยืน”

“เราเชื่อว่านวัตกรรมใหม่ ๆ จะช่วยทำให้เกิดความก้าวหน้า ส่วนความยั่งยืนจะช่วยทำให้ก้าวไปได้อย่างมั่นคง เพราะหากมีความก้าวหน้าอย่างเดียวแต่ไม่มีความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของธุรกิจหรือในแง่บริษัทหรือแง่ใดก็ตามจะทำให้ไปต่อไม่ได้ เราจึงนำทั้ง 2 อย่างนี้มาผสมผสานเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นตัวแทนส่งมอบคุณค่าไปสู่ลูกค้า ผู้บริโภค และส่งต่อสิ่งดี ๆ สู่โลกของเรา”

นอกจากนี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังเผยถึงกลยุทธ์ที่ทำให้ BGC ขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจรว่า นอกจากนวัตกรรมและความยั่งยืนแล้ว ทาง BGC ยังมุ่งเน้นให้คำปรึกษาและการบริการให้กับลูกค้าแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบบรรจุภัณฑ์ มีโปรแกรมทดสอบระดับมืออาชีพ มี 3D MOCKUP SAMPLE ผลิตงานบรรจุภัณฑ์ตัวอย่างให้กับลูกค้า เรียกได้ว่าเป็น Total Packaging Solutions มาที่ BGC ได้ครบจบทุกอย่าง


“เรามีศูนย์ Technology and Innovation Center (TIC) และทีมนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของการใช้งาน ความสวยงาม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

“กลยุทธ์ของเราคือเน้นวางแผนร่วมกับลูกค้า และคู่ค้าในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงดึงความเป็นเอกลักษณ์ของลูกค้าแสดงออกมาในตัวผลิตภัณฑ์”

โชว์ศักยภาพผู้นำบรรจุภัณฑ์ครบวงจรที่ยั่งยืน ผ่านงาน ProPak Asia 2023 ครั้งที่ 30

ProPak Asia 2023 เป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ แห่งภูมิภาคเอเชีย ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 30 แล้ว โดย BGC ได้นำนวัตกรรมและบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน จัดแสดงในงาน ProPak Asia 2023 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “BGC Sustainovation Gallery” เพื่อรองรับโลกธุรกิจและสอดรับกับแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน

โดยทาง BGC มีผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ หลากหลายมาจัดแสดงในงาน ได้แก่


1. บรรจุภัณฑ์แก้ว

BGC เป็นผู้นำด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วในภูมิภาคอาเซียน กำลังการผลิตสูงถึง 3,495 ตันต่อวัน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และมาตรฐานระดับสากล อีกทั้งยังมีนวัตกรรมขวดแก้วน้ำหนักเบา (LIGHTWEIGHT BOTTLE) ที่ใช้ปริมาณวัตถุดิบในการผลิตน้อยลง ช่วยลดทรัพยากรในการผลิต ลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีผลทำให้เรามีส่วนช่วยทำให้โลกน่าอยู่มากขึ้น อีกทั้งยังลดค่าขนส่งเนื่องจากมีน้ำหนักเบา จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าได้เช่นกัน ทั้งนี้ยังมีขวดแก้วที่ผลิตจากเศษแก้ว 100 % เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า

2. บรรจุภัณฑ์พลาสติก

นวัตกรรมการนำขวด Polyethylene Terephthalate (PET) นำกลับมารีไซเคิลเพื่อทำเป็นเม็ดพลาสติกที่เรียกว่า Recycled PET หรือ rPET เพื่อหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ 100% ซึ่งขวดพลาสติกที่ได้จะมีคุณภาพดี คงความใส แข็งแรง สามารถนำกลับมาบรรจุอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างปลอดภัยตามมาตรฐาน อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

3. บรรจุภัณฑ์กระดาษ (Paper Packaging)

นอกจากบรรจุภัณฑ์กระดาษแล้ว BGC ยังมีนวัตกรรมกล่องพัสดุ MIDLOCK มีคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้ดี สามารถป้องกันสินค้าไม่ให้เกิดความเสียหาย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา สะดวกในการเคลื่อนย้าย เน้นการใช้ปริมาณกระดาษน้อยลง แต่ขึ้นรูปได้ง่าย ซึ่งการใช้ปริมาณกระดาษน้อยลง ทั้งยังถูกออกแบบมาเพื่อลดการใช้เทปกาว ช่วยโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น


4. ฉลากฟิล์ม

โดย BGC มีนวัตกรรมฉลากฟิล์มที่หลากหลาย อาทิ Fluorescent film หรือ ฟิล์มเรืองแสง ซึ่งเมื่อเจอแสงไฟเรืองแสงได้ในที่มืด ชูความโดดเด่นของลวดลายออกมา รวมถึงนวัตกรรม Thermochromic Label ที่สามารถแสดงลวดลายให้โดดเด่นเพิ่มขึ้นเมื่ออยู่ในตู้เย็น หรืออุณหภูมิต่ำ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ และมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ของลูกค้า

5. บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging)

โดยนำนวัตกรรม Mono Material ซึ่งเป็นการเลือกใช้วัสดุพลาสติกประเภทเดียวกันทั้งหมดมาผลิตเป็นฟิล์มชั้นต่าง ๆ ในบรรจุภัณฑ์ แต่ในขณะเดียวกันยังคงคุณสมบัติการใช้งานที่เทียบเท่ากับบรรจุภัณฑ์เดิม ที่สำคัญสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ง่ายขึ้น ซึ่ง Flexible Packaging ได้แก่ ถุง Pouch เช่น ถุงขนม ถุงอาหารสัตว์ ถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม ถุงน้ำยาล้างจาน เป็นต้น


เป้าหมายในอนาคต พร้อมผลักดันให้ธุรกิจเติบโตขึ้นทุกมิติ

ต้องบอกว่า BGC นั้นยืนหนึ่งเรื่องบรรจุภัณฑ์มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์แก้วที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำยอดขายสูงสุด บรรจุภัณฑ์พลาสติก บรรจุภัณฑ์กระดาษ ฉลากฟิล์ม และล่าสุดคือ บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ซึ่งการันตีด้วยรางวัลและผลงานมากมาย อาทิ รางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม Best Innovative Company Awards จาก “บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วน้ำหนักเบา เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม – Eco Friendly Lightweight Glass Packaging”, รางวัล “Outstanding Investor Relations Awards” จากงาน SET Awards 2021, ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” Thailand Sustainability Investment (THSI) ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็นต้น

ทั้งนี้เป้าหมายในอนาคตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGC เผยว่า พร้อมที่จะผลักดันให้บริษัทเติบโตขึ้นในทุกมิติ เพื่อทะยานยอดขายสู่ 25,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี


“ปัจจุบัน BGC มียอดขายบรรจุภัณฑ์แก้วคิดเป็น 85% ในส่วนบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ คิดเป็นประมาณ 15% ซึ่งเป้าหมายต่อไปจากนี้ เราจะทำให้สัดส่วนบรรจุภัณฑ์แก้วมียอดขายเป็นสัดส่วน 60% และเพิ่มบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ใช่แก้วเป็น 40% เราอยากให้บรรจุภัณฑ์แก้วเติบโตไปเรื่อย ๆ ส่วนบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ เราก็อยากให้มียอดขายเติบโตตามไปด้วย ทั้งนี้เรามีเป้าประสงค์ที่จะก้าวไปถึง 25,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี หรือภายในปี ค.ศ. 2026 ครับ”

“BGC จะไม่หยุดพัฒนา เรายังคงมองหาการเติบโตในทุก ๆ มิติ ในขณะเดียวกัน เราก็จะก้าวไปในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ที่มีอยู่ และก้าวไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแพ็คเกจจิ้งด้วย โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา BGC ก็ได้ต่อยอดเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท ไพร์ม แพ็คเกจจิ้ง ทั้งนี้เพื่อขยายธุรกิจ Flexible Packaging ตามแผนยุทธศาสตร์มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร”

“นอกจากเรื่องแพ็คเกจจิ้งแล้ว ทาง BGC ก็ยังคงมองหาธุรกิจต่อเนื่อง โดยล่าสุดเราได้ก่อตั้ง บริษัท บีจีซี ซัพพลาย เชน เมเนจเม้นท์ จำกัด ประกอบกิจการให้บริการด้านซัพพลายเชน และธุรกิจที่เกี่ยวกับซัพพลายเชน”

“อีกทั้ง BGC ยังมองหาโอกาสลงทุนในบรรจุภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อขยายพอร์ตให้ครอบคลุมความต้องการของตลาด รวมถึงมองหาโอกาสลงทุนในต่างประเทศ เช่น กลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งถือเป็นตลาดหลักในการส่งออก และเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี”

นอกจากธุรกิจเติบโต ยังคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย

ปัจจุบันทั่วโลกมุ่งเน้นการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ผู้ประกอบการหลายรายจึงต้องปรับตัวให้พร้อมรับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งทาง BGC ก็ได้เห็นความสำคัญในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

“ต้องยอมรับว่าเทรนด์การใช้บรรจุภัณฑ์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ปัจจัยมาจากเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลทางตรงกับการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค ประกอบกับมีการผลักดันจากหลายหน่วยงานทั่วโลกจนเกิดเป็นเมกะเทรนด์ ที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจ BGC จึงวางแผนพัฒนาธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio Circular Green Economy Model) โดยมุ่งวางเป้าพัฒนาออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่่อความยั่งยืน การบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างคุ้มค่า และการจัดการก๊าซเรือนกระจก”

นอกจากนี้ทาง BGC ยังได้รับความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่ในการนำของเสีย หรือบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วกลับมาใช้ในการผลิตใหม่ให้ได้มากที่สุดด้วย

“เรามองว่าจะทำยังไงให้เราใช้ทรัพยาการให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า มีประสิทธิภาพมากที่สุด และนำกลับมารีไซเคิลได้มากที่สุด ซึ่งเราไม่เพียงแต่เน้นการเติบโตทางธุรกิจเพียงเท่านั้น แต่เรายังเติบโตควบคู่กับสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายศิลปรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น