ผู้จัดการรายวัน 360 – “ไมเนอร์” เปิดแผนลงทุนขยายโรงแรมเพิ่มอีกกว่า 65 แห่ง รวมกว่า 13,000 ห้อง ในช่วง 3 ปีนี้ รับตลาดท่องเที่ยวฟื้่นตัวกลับมาแรงขึ้น ขยายทุกแบรนด์ในต่างประเทศเพียบ มั่นใจภาพรวมสถานการณ์ที่ดีขึ้น
นายดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล และประธานเจ้าหน้าที่บริหารไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า กลุ่มไมเนอร์วางแผนการลงทุนระยะ 3 ปี (พ.ศ.2566-2568) จะขยายเครือข่ายโรงแรมทั่วโลกทั้งหมดทุกแบรนด์ที่มีกำหนดเปิดบริการภายในปี 2568 รวมอีก 65แห่ง มากกว่า 13,000 ห้อง โดยแบ่งเป็น โรงแรมที่ลงทุนเป็นเจ้าของเอง จำนวน 7 แห่ง และอีก 58 แห่งรูปแบบรับบริหาร
ตามแผนงานจะเปิดโรงแรมอนันตรา เพิ่มที่จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ปอร์ตุเกส ไทย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ , แบรนด์อวานี จะเปิดที่ บาห์เรน จีน โคลอมเบีย เยอรมัน อิตาลี มัลดีฟส์ เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์, แบรนด์ โอ๊คส์ จะเปิดที่ประเทศ จีน อียิปต์, แบรนด์เอ็นเอชโฮเทลส์ จะเปิดที่ประเทศ จีน เม็กซิโก ปอร์ตุเกส สวิตเซอร์แลนด์, แบรนด์ เอ็นเอชคอลเคชั่น จะเปิดที่ประเทศจีน เยอรมัน อิตาลี ปอร์ตุเกส กาตาร์ ไทย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, แบรนด์ นาว จะเปิดที่ประเทศ ชิลี อิตาลี เปรู และแบรนด์ ทิโวลี จะเปิดที่ประเทศ บาห์เรน ปอร์ตุเกส สเปน
ทั้งหมดนี้จะมีในไทย 2 แห่ง คือที่อนันตรา เกาะยาวใหญ่ และ เอ็นเอชเชียงใหม่ ส่วนที่ร่วมลงทุนเช่น อนันทราที่อินโดนีเซีย ไมเนอร์ฯลงทุน 60% เอ็นเฮชมัลดีฟส์ไมเนอร์ฯ ลงทุน 60% เป็นต้น
จากปัจจุบันสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ไมเนอร์ โฮเทลส์ มีธุรกิจโรงแรม เซอร์วิส สวีท ทั้่งในรูปแบบที่เป็นเจ้าของเอง ผู้รับบริหาร และผู้ร่วมลงทุน จำนวน 530 แห่ง ใน 56 ประทศ จำนวนห้องพักมากกว่า 76,000 ห้อง จากทั้งหมด 8 แบรนด์ข้างต้น และแบรนด์อื่นๆได้แก่ แมริออท โฟร์ซีซั่นส์ เซ็นต์รีจิส เรดิสันบลู และโรงแรมภายใต้ไมเนอร์ อินเ
ตอร์เนชั่นแนล ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา มหาสมุทรอินเดีย ยุโรป อเมริกาใต้ และ อเมริกาเหนือ
นายดิลลิป กล่าวด้วยว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์ภาพรวมและแนวโน้มของธุรกิจการท่องเที่ยวทโรงแรมจากนี้ไป โดยเฉพาะไตรมาสที่3และ4 น่าจะดีขึ้นตามลำดับกว่าที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดนักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาสมบูรณ์แบบก็ตาม แต่ก็ยังมีตลาดอื่นเข้ามทดแทนกันได้ ไม่ว่าจะเป็นตลาดนักท่องเที่ยวจากอินเดีย รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งตลาดยุโรปอีกหลายประเทศที่มีการเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้น หลังจากไม่ได้มีการเดินทางกันมานานในช่วงโควิด-19ระบาดอย่างหนักทั่วโลก
ทั้งนี้จากผลประกอบการของไมเนอร์ โฮเทลส์ ช่วงไตรมาสแรกปี2566นี้ ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเข้าพัก 59% มากกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มี 39% โดยผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ มีรายได้รวม 24,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่ทำได้ 13,760 ล้านบาท โดยรายได้ในไทยเพิ่มขึ้นมากสุดถึง 213% ในยุโรปเพิ่มขึ้น 77% ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เพิ่มขึ้น 22% ในมัลดีฟส์และตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้น 3% ในอเมริกา เพิ่มขึ้น 30% สำหรับสัดส่วนรายได้ไตรมาสแรกปีนี้มาจาก ประเทศไทย 16% ต่างประเทศ 84% ขณะที่ปี 2564 ทั้งปี สัดส่วนรายได้มาจากไทย 9% และสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 91%
ขณะที่สัดส่วนรายได้แบ่งเป็นรูปแบบลงทุนเป็นเจ้าของเองกับเช่า สัดส่วน 82% รูปแบบรับบริหาร สัดส่วน2% รูปแบบ มิกซ์ยูส 8% และ รูปแบบเอ็มแอลอาร์ 8%
รายได้ที่เพิ่มขึ้นมานั้น เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว ตลาดนักท่องเที่ยวมามากขึ้น และการปรับอัตราค่าห้องที่สูงขึ้นได้ โดยไตรมาสแรกปีนี้ มีอัตราการเข้าพักห้องเฉลี่ยที่ 59% มากกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มีจำนวน 39% แต่ยังน้อยกว่าช่วงที่มีการเกิดโควิดใหม่ๆไตรมาสแรกปี 2562 ที่มีอัตรา 65%
ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก ไตรมาสแรกปีนี้ทำได้สูงถึง 2,737 บาทต่อห้อง
เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่ทำได้ 1,460 บาทต่อห้่อง และมากกว่าช่วงที่เกิดโควิดใหม่ๆที่ทำได้ 2,444 บาท
