สมอ. เตรียมออกมาตรฐาน “มอก.เอส” การบริการสนามมวย และการบริการสอนมวยไทย พร้อมประกาศใช้มิถุนายน 2566 นี้ ผลักดัน 32 สนามมวยทั่วประเทศยื่นขอการรับรอง เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการ
นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมวยไทยได้กลายเป็นธุรกิจอีกแขนงที่มีผู้ประกอบการซึ่งเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และกลุ่มธุรกิจเกิดใหม่ (Start-up) ที่ให้บริการสนามมวย ทั้งในรูปแบบการเปิดสนามให้บริการเข้าชมการชกมวย และเปิดเป็นสถานฝึกอบรมหรือสอนมวยไทย ซึ่งเป็นกีฬาที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดีดังนั้นสมอ. จึงเห็นควรกำหนดเป็นมาตรฐาน มอก.เอส การบริการสนามมวย และการบริการสอนมวยไทยขึ้นโดยจะมีการประชุมหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อร่วมกันให้ข้อคิดเห็นต่อมาตรฐานดังกล่าว โดยมีนายกเทศมนตรีเทศบาลนครรังสิต (ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง) เป็นประธานคณะทำงานกำหนดมาตรฐาน และมี สมอ. เป็นเลขานุการคณะทำงานฯ ซคาดว่าจะประกาศใช้มาตรฐานดังกล่าวได้ภายในเดือนมิถุนายน 2566 นี้
“ ขั้นตอนการกำหนดมาตรฐาน มอก.เอส การบริการสนามมวย และการบริการสอน มวยไทย ก่อนที่จะประกาศใช้นั้น สมอ. ได้ลงพื้นที่สนามมวยนานาชาติรังสิต และศูนย์การเรียนรู้และนันทนาการ เทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาข้อมูลนำมาประกอบการกำหนดมาตรฐาน โดยมีข้อกำหนดที่สำคัญ เช่น มีใบอนุญาตถูกต้องจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มีระบบโครงสร้างพื้นฐาน อาคาร ห้องน้ำ ระบบรักษาความปลอดภัยและระบบสุขาภิบาล เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารและพระราชบัญญัติสาธารณสุข ในส่วนของการจดทะเบียนนักมวย ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน หัวหน้าค่ายมวย และการจัดระเบียบและกติกาในการแข่งขัน เป็นไปตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. 2542 เป็นต้น”นายบรรจงกล่าว
ปัจจุบันประเทศไทยมีสนามมวยที่ได้รับอนุญาตจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แล้วจำนวน 32 สนาม เช่น สนามมวยนานาชาติรังสิต จังหวัดปทุมธานี สนามมวยสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี สนามมวยเขาหลักสเตเดี้ยม จังหวัดพังงา สนามมวยสุขไพรวัน จังหวัดระยอง สนามมวยเวทีมวยหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สนามมวยเวทีภูเก็ตแอร์พอร์ต จังหวัดภูเก็ต สนามมวยค่ายสุรศักดิ์มนตรี จังหวัดลำปาง และสนามมวยเวทีกรุงเทพ กรุงเทพมหานคร เป็นต้น สนามมวยจึงควรเป็นสนามกีฬาที่มีมาตรฐาน มีระบบการบริหารจัดการคุณภาพอย่างเป็นระบบ รวมถึงมีข้อกำหนดด้านคุณภาพการให้บริการอื่น ๆ เช่น ความปลอดภัย สุขอนามัย การควบคุมโรค เพื่อเป็นการพัฒนายกระดับและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ สมอ. ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงเห็นควรกำหนดเป็นมาตรฐาน มอก.เอส การบริการสนามมวย และการบริการสอนมวยไทย ขึ้น
เลขาธิการ สมอ.กล่าวว่า ขณะนี้สมอ.ได้กำหนดมาตรฐาน มอก.เอส ทั้งสิ้นแล้ว 245 มาตรฐาน แบ่งเป็นมาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ จำนวน 121 มาตรฐาน เช่น สำลีทั่วไป ถ่านดูดกลิ่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เฟอร์นิเจอร์ไม้ และสเปรย์ดับเพลิง ฯลฯ และมาตรฐานด้านการบริการ จำนวน 124 มาตรฐาน เช่น บริการสักคิ้วและต่อขนตา สนามกีฬาชนโค สนามกีฬาชนไก่ ร้านสะดวกซัก การติดตั้งและซ่อมแซมเครื่องมือวิทยาศาสตร์ สอนภาษาต่างประเทศ และการบริการรถไฟฟ้าดัดแปลง เป็นต้น ทั้งนี้ สามารถค้นหารายชื่อมาตรฐาน มอก.เอส เพิ่มเติมได้ที่
https://www.tisi.go.th/website/tiss/tis_s และสามารถยื่นคำขอออนไลน์ได้ที่ https://service.tisi.go.th /e-sdo/web/request/create สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองกำกับองค์กรด้านการมาตรฐาน สมอ. โทร 0 2430 6826 ในวัน และเวลาราชการ