จากการรายงานข่าวของสำนักข่าวอังกฤษ The Guardian เมื่อวันที่ 18 เมษายน วุฒิสภารัฐไอโอวาลงมติอนุญาตให้เด็กทำงานหลายชั่วโมงและเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้นานขึ้น ซึ่งเป็นมาตรการล่าสุดของสภานิติบัญญัติที่อยู่ภายใต้พรรครีพับลิกันเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยร่างกฎหมายฉบับนี้จะเพิ่มชั่วโมงการทำงานของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีจาก 4 ชั่วโมงเป็น 6 ชั่วโมงต่อวัน และยังอนุญาตให้ผู้เยาว์ที่ได้รับการอบรมสามารถทำงานประเภทต่างๆที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้รับอนุญาต และเด็กอายุ 16 และ17 ปีสามารถทำงานบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หากได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการลงมติด้วยคะแนนเสียงด้วย 32 เสียงต่อ 17 เสียง โดยไม่เห็นด้วยจากสมาชิกพรรครีพับลิกันสองรายและพรรคเดโมแครต จึงจุดชนวนความขัดแย้งทางความคิดเห็นระหว่างทั้งสองฝ่าย พรรคเดโมแครตเห็นว่าร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นการคว้าอำนาจทางการเมือง และเป็นการมุ่งเป้าไปที่ Rob Sand เจ้าหน้าที่จากพรรคเดโมแครตเพียงคนเดียวที่ได้รับการเลือกตั้งในรัฐไอโอวา ผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันกล่าวว่า Rob Sand ได้เข้าถึงข้อมูลต่างๆที่อยู่นอกขอบเขตหน้าที่ของสำนักงานผู้สอบบัญชี ส่วนกฎหมายนี้ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในไอโอวา
พรรคเดโมแครตและผู้สนับสนุนแรงงานร่วมประณามร่างกฎหมายฉบับนี้ พวกเขาคิดว่าการที่อนุญาตให้เด็กทำงานในพื้นที่อันตรายต่างๆ เช่น การมุงหลังคา ,การขุดดิน, การรื้อถอน เป็นต้น มีความเสี่ยงสูงต่อความปลอดภัยของเด็ก สหภาพแรงงานก็ได้จัดกิจกรรมประท้วงเพื่อต่อต้านกฎหมายนี้ “The Washington Post” ระบุว่ามีหลักฐานมากมายที่บ่งชี้ว่าทั้งอดีตและปัจจุบันเด็กได้รับบาดเจ็บและได้รับค่าตอบแทนอย่างไม่เป็นธรรมในการทำงานหลายอย่าง เด็กวัยรุ่นจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการทำงานมากกว่าผู้ใหญ่กว่า 2 เท่า และมักได้ค่าตอบแทนที่ต่ำที่สุด การปล่อยให้เด็กทำงานเสี่ยงอันตรายและทำงานเป็นเวลานานถือเป็นข้อผิดพลาดอย่างยิ่งของกฎหมายและไม่ใช่วิธีที่จะแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานเลย อีกทั้งเด็กและเยาวชนที่ทำงานหนักท้ายสุดแล้วก็เป็นคนจน เด็กที่อพยพโดยลำพังจากอเมริกากลางกำลังเป็นแรงงานราคาถูกให้กับธุรกิจบางราย สภานิติบัญญัติและผู้นำอื่นๆในระดับรัฐและรัฐบาลกลางไม่ควรยกเลิกการคุ้มครองแรงงานเด็ก แต่ควรเสริมความคุ้มครองให้มากขึ้น เด็กและเยาวชนล้วนต้องได้รับการศึกษาในโรงเรียน
เด็กคืออนาคตที่สำคัญที่สุดของสหรัฐอเมริกา กฎหมายคุ้มครองเด็กในปี ค.ศ.1938 สร้างเงาร่มให้กับเด็กๆ แต่ร่างกฎหมายฉบับล่าสุดกลับละเลยความปลอดภัยของเด็กในบางประการ เด็กๆไม่ใช่สินค้าที่จะซื้อขายกัน ช่วงเวลาใช้ชีวิตที่สำคัญที่สุดของพวกเขาควรอยู่กับโรงเรียนและครอบครัว อยู่ในที่ที่สร้างความสุขและสุขภาพที่แข็งแรงให้กับพวกเขาได้ หวังว่าเด็กๆและลูกหลานของเราจะมีอนาคตที่สดใสมากขึ้น