นายกสมาคมผู้ประกอบการและช่างพลังงานแสงอาทิตย์หวังรัฐบาลใหม่เดินหน้าส่งเสริมโครงการโซลาร์ภาคประชาชนมากขึ้น แนะเพิ่มปริมาณการรับซื้อ และอัตราซื้อไฟจาก 2.20 บาทต่อหน่วยเป็นอย่างน้อย 3.20 บาทต่อหน่วย เผยบริษัทรับติดตั้งโซลาร์ฯ คิวแน่นหลังบ้าน และโรงงานแห่ใช้ลดรายจ่าย
นายพลกฤต กล่ำเครือ นายกสมาคมผู้ประกอบการและช่างพลังงานแสงอาทิตย์และกรรมการผู้จัดการ บ.ดราก้อนเอ็นเนอร์จี เทคโนโลยีแอนด์ออแกไนท์เซอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ต้องการเห็นรัฐบาลใหม่ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการโซลาร์ภาคประชาชนต่อเนื่อง โดยการเพิ่มเป้าหมายการรับซื้อให้มากขึ้นจากกำหนดไว้เดิมที่เปิดรับซื้อระยะยาว 10 ปี (ปี 2564-73) ไม่เกิน 90 เมกะวัตต์ พร้อมกับปรับอัตราการรับซื้อไฟฟ้าจากปัจจุบัน 2.20 บาทต่อหน่วยเป็นอย่างต่ำ 3.20 บาทต่อหน่วยเพื่อให้ไม่ห่างจากอัตราค่าไฟฟ้าปัจจุบันงวด พ.ค.-ส.ค. 66 เฉลี่ยอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วยมากเกินไป
“ประชาชนขายไฟส่วนเกินให้แค่ 2.20 บาทต่อหน่วยแต่ใช้ไฟต้องจ่าย 4.70 บาทต่อหน่วยมองว่าต่างเกินไป ส่วนข้อเสนอการคิดค่าไฟฟ้าแบบหักลบกลบหน่วยตามจริง (Net metering) ทางรัฐเองมีการพิจารณากันแล้วแต่พบว่ายังไม่สามารถดำเนินการได้เพราะยังติดขัดระเบียบวิธีทางบัญชี ดังนั้นเมื่อค่าไฟเป็นแบบอัตราก้าวหน้าการติดตั้งโซลาร์ฯ จะทำให้ประชาชนลดรายจ่ายได้มาก เมื่อเหลือใช้สามารถขายให้รัฐในอัตราที่จูงใจมากขึ้นก็จะทำให้การติดตั้งโซลาร์ฯ มีความคุ้นทุนเร็วไปด้วย” นายพลกฤตกล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลใหม่ควรจะกำหนดโรดแมปการส่งเสริมโซลาร์รูฟท็อปที่ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการลดภาษีนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อทำให้ต้นทุนการติดตั้งของประชาชนต่ำลง รวมไปถึงการออกมาตรฐานการติดตั้งและการพัฒนาแรงงานเกี่ยวกับโซลาร์ฯ ให้มากขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการจ้างงานและรองรับกับตลาดแรงงานของกลุ่มนี้ที่มีแนวโน้มความต้องการสูง เป็นต้น
ปัจจุบันอัตราค่าไฟฟ้าที่ภาพรวมสูงขึ้นหากเทียบกับอดีตที่ผ่านมาประกอบกับปี 2566 อากาศร้อนจัดทำให้มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ที่ส่งผลให้ค่าไฟที่คิดตามขั้นบันไดปรับตัวเพิ่ม แต่ผู้ที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปลดรายจ่ายค่าไฟได้จริงแนวโน้มการติดตั้งโซลาร์ฯ จึงยังมีมากขึ้นต่อเนื่อง โดยพบว่าประเภทบ้านที่อยู่อาศัยติดตั้งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 25-30% และประเภทโรงงานมากถึง 40%
“บริษัทที่รับติดตั้งมีคิวการติดตั้งเยอะมากเรียกว่าทำงานไม่ทัน เพราะขณะนี้เทคโนโลยีแผงโซลาร์ฯ การติดตั้ง ระบบบริการต่างๆ ดีขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม ความคุ้มค่าอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือประชาชนจำเป็นต้องเลือกบริษัทที่มีมาตรฐาน โดยดูง่ายๆ คือตั้งมานาน มีประสบการณ์ทำงาน” นายพลกฤตกล่าว