ผู้จัดการรายวัน 360 - แอลจี อีเลคทรอนิคส์ เปิดตัวทิศทางและภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์
ที่สะท้อนคุณค่าตามสโลแกน “Life’s Good” มากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูมีชีวิตชีวาและเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากกว่าเดิม ในทุกทัชพอยต์ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสทั้งทางออฟไลน์และดิจิทัล
ในคู่มือแนวทางการสื่อสารของแบรนด์ใหม่ที่แอลจีส่งให้กับพนักงานทั่วโลก แอลจีได้วางทิศทางใหม่ของแบรนด์ให้เข้าถึงและเป็นที่รักของลูกค้าทุกช่วงวัยทั่วโลก โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่ม Gen Z รวมทั้งตอกย้ำความเป็นแบรนด์ระดับไอคอนนิกของแอลจี โดยแนวทางการสื่อสารดังกล่าวเน้นคุณค่าหลักของแบรนด์ในการส่งมอบทั้ง ‘ประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า’ โดยใช้ ‘นวัตกรรมที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง’ และ ‘ความอบอุ่นที่สร้างพลังแห่งรอยยิ้ม’
สโลแกน “Life’s Good” ครอบคลุมความตั้งใจของแอลจีในการยกระดับคุณภาพชีวิต และช่วยให้ลูกค้ามีความสุขกับช่วงเวลาที่มีค่า ผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ บริการ และการสื่อสารจากแอลจี ในด้านพันธกิจของแบรนด์ แอลจียังคงยึดมั่นในแนวคิด “Innovation for a Better Life” หรือนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตและอนาคตของโลกใบนี้ที่ดียิ่งขึ้น
ในการกำหนดทิศทางใหม่ของแบรนด์ ยังมีการปรับปรุงภาพลักษณ์โดยนำความรู้สึกอบอุ่นและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวที่เป็นเอกลักษณ์เดิมมาตีความใหม่ โดยแอลจีตั้งเป้าเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้นผ่านภาพลักษณ์ใหม่นี้ที่ดูมีชีวิตชีวาและเข้าถึงได้ง่าย ในขณะเดียวกันก็เสริมลูกเล่นใหม่เข้าไปในภาพลักษณ์เดิมของแบรนด์ด้วย
ในสื่อดิจิทัล โลโก้ของแอลจีจะขยับมีชีวิตชีวาและเพิ่มการแสดงออกในอีกระดับ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า โลโก้ซึ่งประกอบไปด้วยตัว “L” และ “G” สามารถเคลื่อนไหวได้ถึง 8 ท่าทาง เช่น พยักหน้า หมุนและขยิบตา ซึ่งลูกเล่นใหม่ๆ นี้ทำให้โลโก้สามารถทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร หรือเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลงบนแพลตฟอร์มดิจิทัลได้อย่างสนุกสนานในหลากหลายรูปแบบ
นอกจากจะใช้สีแดง LG Red เดิมที่เป็นซิกเนอเจอร์แล้ว แอลจียังนำสีแดง LG Active Red มาใช้เพื่อเพิ่มพลังในทุกๆ จุดที่มีการเชื่อมต่อกับลูกค้า อีกทั้งยังเพิ่มการไล่ระดับสีแดง ขาว และดำ ของ LG Active Red เพื่อให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตามเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันของแต่ละผลิตภัณฑ์และบริการ
แอลจียังออกแบบตัวอักษรใหม่สำหรับสโลแกน Life’s Good ซึ่งจะนำมาใช้บนกล่องบรรุจภัณฑ์ในวงกว้างมากขึ้น ตัวอักษรใหม่นี้ยังนำแรงบันดาลใจจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแอลจีมาใช้อย่างลงตัว
กลยุทธ์ใหม่ด้านแบรนด์ของแอลจีไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาพลักษณ์เดิมที่ไม่เหมือนใครเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงความตั้งใจและศักยภาพในการปรับตัวตามลูกค้าแต่ละรุ่น รวมถึงสะท้อนความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการยกระดับประสบการณ์ให้กับลูกค้าทั่วโลก โดยบริษัทมีแผนทยอยนำภาพลักษณ์ใหม่ที่ไม่เหมือนใครมาใช้ในทัชพอยต์ต่างๆ ตลอดปีนี้
นายวิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอลจี อีเลคทรอนิคส์ กล่าวว่า “การมีกลยุทธ์ด้านแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นเอกภาพ ทำให้แอลจีสามารถสื่อสารคุณค่าและตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของเราได้ดียิ่งขึ้น โดยผสานความรู้สึกอบอุ่นและนวัตกรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว แอลจีหวังว่าการนำกลยุทธ์แบรนด์ใหม่มาใช้ จะทำให้เราเป็นแบรนด์ระดับไอคอนนิกที่เชื่อมต่อได้กับผู้บริโภคทุกวัยทั่วโลก”
ทั้งนี้แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ เป็นผู้สร้างนวัตกรรมระดับโลกทั้งด้านเทคโนโลยีและการผลิตใน 140 แห่ง พร้อมพนักงานมากกว่า 70,000 คนทั่วโลก ในปี 2018 ยอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 54.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแอลจีประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจห้ากลุ่ม คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและโซลูชั่นส์เครื่องปรับอากาศ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ โทรศัพท์มือถือ โซลูชั่นส์ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ทั้งนี้ แอลจีถือเป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ที ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมียมอย่าง LG SIGNATURE และ LG ThinQ ที่มาพร้อมกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI
บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ ประเทศไทย (จกัด) หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านภายใต้แบรนด์ แอลจี โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทยที่จะเติมเต็มชีวิตของผู้บริโภคชาวไทยด้วยนวัตกรรมระดับโลกโดยในประเทศไทยนั้น ประกอบไปด้วย 3 หน่วยธุรกิจสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ธุรกิจเครื่องปรับอากาศและโซลูชั่นด้านพลังงานแอลจีเป็นผู้นำด้านการผลิตทีวีจอแบน อุปกรณ์ภาพและเสียง เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า และตู้เย็นที่มีคุณภาพระดับโลก นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยีและคุณภาพที่วางใจได้แล้ว แอลจียังมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ผ่านกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบที่น่าสนใจและหลากหลายเพื่อให้สอดคล้องกับสโลแกน “Life’s Good”
