ปตท.ลั่นปีนี้ผลดำเนินงานดีขึ้นกว่าปีก่อน จากราคาน้ำมันที่อยู่ระดับสูงส่งผลดีต่อปตท.สผ. ส่วนภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจฟื้นตัวหนุนกิจการ OR ดีขึ้น ราคาก๊าซฯ อ่อนตัวส่งผลดีต่อธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจก๊าซฯ ของ ปตท. แต่ธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่น แม้ค่าการกลั่นลดลงแต่ปริมาณการผลิตเพิ่ม ด้านผู้ถือหุ้น ปตท.ไฟเขียวจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2565 อัตราหุ้นละ 0.70 บาท
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจําปี 2566 ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ ปตท.ในปี 2566 คาดว่าจะเติบโตจากปี 2565 ที่มีรายได้จากการขาย 3.37 ล้านล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 9.12 หมื่นล้านบาท หากพิจารณาตามรายธุรกิจพบว่าธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ของ บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตโตรเลียม (ปตท.สผ.) จะมีผลการดำเนินงานสอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมัน ซึ่งปีนี้ราคาน้ำมันยังอยู่ระดับสูง สาเหตุสงครามรัสเซียกับยูเครนยังไม่สิ้นสุด และกลุ่มโอเปกพลัสปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลง รวมทั้ง ปตท.สผ.มีการผลิตและจำหน่ายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นในแหล่งเอราวัณ จากปีก่อนที่ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน เพิ่มเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในช่วงกลางปี 2566 และสิ้นปีนี้ขยับขึ้นเป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
ธุรกิจก๊าซธรรมชาติก็มีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากปีที่แล้วราคาก๊าซฯ ในตลาดโลกปรับสูงขึ้น ทำให้ต้องนำเข้า LNG ในราคาแพงเข้ามาเฉลี่ยกับก๊าซฯ ที่ผลิตได้ในประเทศส่งผลให้ราคา Pool Gas มีต้นทุนสูงขึ้น แต่ปีนี้ราคา LNG ตลาดโลกต่ำลงและกำลังการผลิตก๊าซฯ ในประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้ Pool Gas ลดลงได้
ธุรกิจปิโตรเคมี คาดว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (สเปรด) จะใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ปีนี้การปิดซ่อมบำรุงโรงงานปิโตรเคมีน้อยกว่าปีก่อนทำให้ปริมาณการผลิตเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับธุรกิจโรงกลั่นที่ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น แต่ค่าการกลั่นปีนี้จะอ่อนตัวลงจากปี 2565 ขณะที่ค่าพรีเมียมน้ำมันดิบลดต่ำลงส่งผลให้ต้นทุนต่ำลง
ธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีกของ OR คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากปีก่อน ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ และธุรกิจไฟฟ้าก็มีแนวโน้มดีขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ อนุมัติการจ่ายเงินปันผลปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 2.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 63% ของกําไรสุทธิ ซึ่ง ปตท.ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งแรกของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 1.30 บาทแล้ว คงเหลือ 70 สตางค์/หุ้นที่กําหนดจ่ายในวันที่ 28 เมษายน 2566
“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ปตท.จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 64% ของกำไรสุทธิ ซึ่งสูงกว่านโยบายที่กำหนดไว้ 25% ของกำไรสุทธิ” นายอรรถพลกล่าว
นายอรรถพลกล่าวว่า การจัดสรรงบของปตท.จำนวน 3,000 ล้านบาทเพื่อไปอุดหนุนกองทุนน้ำมันฯ นั้นนับเป็นการดูแลประชาชน ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในฐานะผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าของ ปตท. ยอมรับว่าในปีที่แล้วได้เกิดวิกฤตราคาพลังงานรุนแรง จนส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ส่วนมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่ขอให้ ปตท.บริจาคเงิน 6,000 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือค่าไฟฟ้านั้น ทาง ปตท.ได้หารือกับภาครัฐ โดยใช้วิธีการนำส่วนต่างก๊าซฯ ในส่วนที่เรียกว่า Bypass Gas คือปริมาณก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย รวมถึงก๊าซฯ จากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA) ที่มีราคาถูกกว่า LNG นำเข้า ได้ขนส่งผ่านระบบท่อก๊าซฯ ในทะเลมายังระบบขนส่งก๊าซฯ บนบกที่ระยอง เพื่อผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นโดยไม่ผ่านโรงแยกก๊าซฯ ที่จ.ระยอง ช่วยลดการนำเข้า LNG ที่มีราคาสูง ทำให้ ปตท.ไม่ต้องจ่ายเป็นเม็ดเงิน 6,000 ล้านบาทให้แก่ภาครัฐ