การตลาด - เม็ดเงินโฆษณาตลาดเอเชียเมื่อปีที่แล้ว (พ.ศ. 2565) เติบโต 12% มูลค่าทะลุถึง 5.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ พบสื่อดิจิทัลเป็นสื่อที่มีการเติบโตพุ่งถึง 64% Nielsen Ad Intel ชี้การใช้จ่ายโฆษณาที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากนักการตลาดใช้โฆษณาเพื่อกระตุ้นเพิ่มยอดขาย ไทยเป็นตลาดที่้เติบโตมากเป็นอันดับที่สองรองจากสิงคโปร์
จากข้อมูลล่าสุดของ Nielsen Ad Intel ซึ่งเป็นบริการตรวจเก็บการใช้เงินโฆษณาที่ครอบคลุมที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โดยได้มีการแสดงการใช้จ่ายด้านการโฆษณาในตลาดต่างๆ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน พบว่ามีการใช้เม็ดเงินโฆษณาในปี 2565 (ค.ศ. 2022) โดยรวมมูลค่าเกือบ 5.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โตขึ้น 12%
การเติบโตนี้นำโดยโฆษณาจากสื่อดิจิทัลซึ่งโตมากถึง 64% จากปี 2564 ตามมาด้วยสื่อนอกบ้าน เติบโต 19% และสื่อทีวี เติบโต 6% เมื่อผู้ชมออกนอกบ้านมากขึ้น สื่อโรงภาพยนตร์ก็ฟื้นตัวเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นมากถึง 131% ในขณะเดียวกัน สื่อวิทยุเป็นสื่อเดียวที่ได้รับความนิยมน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยลดลง 8%
*** ภาพรวมงบโฆษณา ปี 2565 (ค.ศ. 2022) ของประเทศไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน
Arnaud Frade ประธาน ฝ่าย Commercial, Nielsen Asia กล่าวว่า "ข้อมูล Ad Intel ประจำปี พ.ศ. 2565 (ค.ศ. 2022) ชี้ให้เห็นว่าการโฆษณาเป็นวิธีที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดในการเชื่อมโยงแบรนด์กับลูกค้าและทำให้มีส่วนร่วมกับลูกค้ามากขึ้น นักการตลาดต้องเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการในการลงทุนในโฆษณา โดยใช้ข้อมูลที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันที่ดุเดือดและเพื่อเพิ่ม ROI ให้ได้สูงสุด”
ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นข้อได้เปรียบเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในเอเชีย
Aaron Rigby กรรมการผู้จัดการของ Nielsen Asia กล่าว “ในยุคที่การโฆษณามีความซับซ้อนมากขึ้น แบรนด์ เอเยนซี และเจ้าของสื่อ จำเป็นต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับการโฆษณาที่มีคุณภาพและทันสมัยเพื่อสร้างความแตกต่างจากการแข่งขันและเพื่อกำหนดเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับแบรนด์หรือสื่อของตัวเอง และ Nielsen Ad Intel ช่วยตรงนี้ได้”
Nielsen Ad Intel ติดตามกิจกรรมโฆษณาระดับแบรนด์ในทุกสื่อ โดยเมื่อเลือกดูเฉพาะตลาดเอเชียจะทำให้เห็นภาพรวมการลงทุนโฆษณาในระดับภูมิภาค ตลาด ทั้งการใช้จ่ายทั้งหมด การเติบโตปีต่อปี และปัจจัยขับเคลื่อนต่างๆ
เมื่อดูเฉพาะการเติบโตในระดับตลาด พบว่าสิงคโปร์เป็นตลาดที่เติบโตสูงสุด มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น 10.17% ส่วนไทยและมาเลเซียตามมาติดๆ ด้วยการเติบโต 9.12% และ 8.05% ตามลำดับ
กล่าวได้ว่า การใช้งบโฆษณาในไทยก็ไม่น้อยหน้ากว่าใครในเอเชีย
ภาพรวมของการใช้จ่ายโฆษณาในปี พ.ศ. 2565(ค.ศ. 2022) แยกตามตลาดประเทศ
1. ประเทศอินโดนีเซีย
มีมูลค่าของปี 2565 ประมาณ 1.92 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 5.02% จากปี 2564
ทั้งนี้ ตลาดชอปปิ้งออนไลน์และเกม เป็นผู้นำตลาดในการใช้เม็ดเงินโฆษณาในอินโดนีเซีย ซึ่งเม็ดเงินรวมทั้งปีของอินโดนีเซียสูงถึง 1.92 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 5.02% จากปี 2564 โดยทีวี ดิจิทัล และสื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อหลักที่แบรนด์ใช้เงินด้วยสูงสุด ส่วนแบรนด์ที่มีการใช้จ่ายสูงสุด ได้แก่ Unilever, Mayora และ Valorant
(ตัวเลขอิงกับอัตราค่าโฆษณาโดยรวมซึ่งไม่รวมส่วนลดและโบนัส)
2. ประเทศฟิลิปปินส์
มีมูลค่าประมาณ 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 เติบโต 3.87% จากปี 2564
กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและสุขอนามัยนำโดย Procter & Gamble และ Unilever Philippines ครองแชมป์แบรนด์ที่ใช้เงินโฆษณาสูงสุด
อย่างไรก็ตาม การเติบโตดังกล่าวไม่รวมสื่อดิจิทัล เนื่องจากมีการเริ่มเก็บเม็ดเงินโฆษณาในปี 2565
3. ประเทศเกาหลีใต้
เม็ดเงินโฆษณาของเกาหลีใต้มีมูลค่าประมาณ 8.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 โตขึ้น 5.54% จากปี 2564
กลุ่มที่มีการใช้จ่ายมากที่สุดคือบริษัททางด้านเทคโนโลยี โดยมี Samsung เป็นผู้นำตลาดที่มีการใช้จ่ายสูงสุด ตามมาด้วย LG Electronics และ KT Corporation โดย HiteJinro เป็นเพียงบริษัทเดียวใน Top 5 ที่ไม่ใช่บริษัทเทคที่มีการใช้เงินโฆษณาสูงสุด
*** ตลาดงบโฆษณาในไทยเติบโตอันดับที่สองในกลุ่ม
4. ประเทศไทย
ในปี 2565 ที่ผ่านมามีมูลค่าประมาณ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 9.12% จากปี 2564
เม็ดเงินโฆษณาของไทยโตขึ้น 9.12% ในปี พ.ศ. 2565 โดยกลุ่ม FMCG เป็นกลุ่มที่ใช้เงินมากที่สุด นำโดย Unilever, Procter & Gamble และ Nestle โดยเม็ดเงินโฆษณาของประเทศไทยเติบโตและมีมูลค่ากว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 118,695 ล้านบาท ทีวีและสื่อดิจิทัลยังคงเป็นสื่อหลักที่แบรนด์ใช้ในการโฆษณา ในขณะที่สื่อนอกบ้านและโรงภาพยนตร์ก็มีการเติบโตเช่นกัน
5. ประเทศสิงคโปร์
เงินโฆษณาในสิงคโปร์สูงถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 โตขึ้น 10.17% จากปี 2564
การใช้จ่ายสูงสุดมาจากโซเชียลมีเดีย รองลงมาคือทีวีและสื่อนอกบ้าน กลุ่มที่มีการใช้เงินมากที่สุดในการโฆษณาคืออีคอมเมิร์ซและกลุ่มค้าปลีก โดยบริษัทที่มีการใช้เงินมากที่สุด ได้แก่ Lazada, NTUC FairPrice และ Amazon
6. ประเทศมาเลเซีย
เม็ดเงินโฆษณาของมาเลเซียสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 เติบโต 8.05% ทีวี ดิจิทัล และหนังสือพิมพ์มีส่วนแบ่งมากที่สุด โดยกลุ่มร้านอาหารฟาสต์ฟูดมีการเติบโตสูงสุด โตขึ้น 35% นำโดย McDonald's, KFC และ Pizza Hut
7. ไต้หวัน
เป็นตลาดที่มีมูลค่าน้อยที่สุด คือมีมูลค่าประมาณ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตเพียง 15% จากปี 2564
การใช้จ่ายด้านสื่อของไต้หวันมีมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 โดยทีวีเป็นสื่อที่โดดเด่นที่สุด กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพเป็นกลุ่มที่มีการใช้เงินมากที่สุด นำโดย Procter & Gamble Home Products, Suntory Wellness Taiwan และ Standard Foods
*** เปิดงบโฆษณาละเอียดในไทยปี 2565
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับตลาดในประเทศไทยนั้น จากการเก็บข้อมูลตัวเลขของนีลเส็น พบว่าปี 2565 ทั้งปี (มกราคม-ธันวาคม) ตลาดงบโฆษณาในไทยมีมูลค่ามากถึง 118,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.12% ซึ่งถือเป็นการเติบโตในลำดับที่สองรองจากสิงคโปร์ ตามที่นีลเส็นระบุไว้ จากทั้งปีของปีที่แล้วในไทยที่มีมูลค่า 108,757 ล้านบาท
ทั้งนี้ สื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมโดยมีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณามากที่สุดอยู่ที่ 53% ของทั้งหมด แต่สื่อที่ในอีกมุมหนึ่งทีวีก็เป็นสื่อที่ตกลงเช่นกันคือ สื่อทีวีจากเดิมปีก่อนหน้ามีมูลค่า 63,649 ล้านบาท ตกลง 1.55% เป็นมูลค่า 62,664 ล้านบาท และสื่อสิ่งพิมพ์ จากเดิม 3,116 ล้านบาท ตกลง 2.15% เหลือ 3,049 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมการใช้เม็ดเงินโฆษณาปี 2565 ช่วงเดือนมกราคมถึงธันวาคม แยกเป็นอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม มูลค่าสูงสุดที่ 18,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2%, แต่กลุ่มุที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ กลุ่มทัวร์ท่องเที่ยว มูลค่า 2,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากถึง 103% ขณะที่กลุ่มที่ลดลงมากที่สุดคือ กลุ่มเสื้อผ้า ตกลง 23% มีมูลค่า 367 ล้านบาท ส่วนที่ตกลงน้อยที่สุดคือ เพอร์ซันนัลแคร์ ลดลง 2% มีมูลค่า14,521 ล้านบาท
สำหรับบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในปี 2565 ในไทยตามที่นีลเส็นรายงานนั้นมีรายละเอียดดังนี้ โดย 3 ลำดับบริษัทแรกล้วนแต่เป็นผู้ผลิตจำหน่ายสินค้า FMCG ต่างประเทศทั้งสิ้น คือ
1. บริษัท UNILEVER THAI TRADING CO.,LTD. มูลค่า 3,755 ล้านบาท แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (2564) 18% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาคือ ทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ ทางสื่อทีวีมูลค่า 39 ล้านบาท รองลงมาคือ ให้ผมสวย มั่นใจ เคลียร์ ทางสื่อทีวีมูลค่า 36 ล้านบาท
2. บริษัท PROCTER & GAMBLE (THAILAND) รวมปีที่แล้วใช้งบมูลค่า 2,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 จำนวน 8% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาคือ เปิดความมันส์ด้วย พริงเกิลส์ ทางสื่อทีวีมูลค่า 20 ล้านบาท รองลงมาคือ ดาวน์นี่ กลิ่นหอมดอกไม้บานสะพรั่ง ทางสื่อทีวีมูลค่า 18 ล้านบาท
3. บริษัท NESTLE(THAI) CO.,LTD. ใช้งบโฆษณาเมื่อปี 2565 มูลค่า 2,387 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2564 จำนวน 20% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คือ เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ สะอาด สดชื่น จนคุณรู้สึกได้ ทางสื่อทีวีมูลค่า 14 ล้านบาท รองลงมาคือ รวยหยุดโลก เปิดโชคกับเนสกาแฟกระป๋อง ทางสื่อทีวีมูลค่า 13 ล้านบาท