แม็คโครเดินหน้าโครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ” ผ่านกลยุทธ์ในการสนับสนุน 3 ด้าน ทั้งด้านการจ้างงานผ่านทุกส่วนในธุรกิจของแม็คโคร ด้านที่สองคือ การสร้างงานให้กลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มคนพิการและผู้ต้องขัง ส่วนด้านที่สามคือ การสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกร และ SME รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อย ที่แม็คโครให้การสนันสนุน อบรมให้องค์ความรู้ต่อยอดธุรกิจทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งปี 2565 ที่ผ่านมาแม็คโครจ้างงานไปแล้ว 66,000 ตำแหน่ง พร้อมสร้างงานให้กลุ่มเปราะบาง 710 คน รวมถึงได้พัฒนาศักยภาพให้เกษตรกร และ SME เปิดช่องทางการขายผ่านสาขาของแม็คโครกว่า 6,000 ราย
ล่าสุดแม็คโครในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของเครือเจริญโภคภัณฑ์ สนับสนุนกองทัพบก กองทัพเรือ เปิดรับทหารปลดประจำการเข้าร่วมงานกว่า 3,300 ตำแหน่ง รวมทั้งวางแผนพัฒนาทักษะ สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพในสายงานธุรกิจค้าส่งค้าปลีก
นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย กล่าวว่า “แม็คโครให้ความสำคัญต่อการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ” เพราะถือเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยมีเป้าหมายในการจ้างงานเพิ่มขึ้น เพื่อดำเนินธุรกิจ Omni-Channel และขยายสาขา โดยในปี 2566 นี้ได้เปิดรับพนักงานจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับปฏิบัติการ จนถึงผู้บริหารงานสาขา เช่น พนักงานจัดเรียงสาขา, พนักงาน Pick & Pack และผู้จัดการ Hub O2O เป็นต้น”
นอกจากการสร้างงาน สร้างอาชีพในทุกมิติแล้ว แม็คโครยังมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะรอบด้าน รองรับการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดทั้งทางด้านการขยายสาขาในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสาขาในประเทศไทยจำนวน 153 แห่ง และ 10 สาขาใน 4 ประเทศ นอกจากนี้ยังมีการขยายแพลตฟอร์มดิจิทัล ในตลาดอีคอมเมิร์ซที่เปิดตัวไปไม่นานมานี้อย่าง Makro PRO ที่มีฟังก์ชัน สั่ง ขาย คุ้ม ครบวงจรในแอปพลิเคชันเดียว