บริษัท สยามสตีล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มหาชน ผู้นำนวัตกรรมด้านการผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ครบวงจร อาคารสำเร็จรูปอเนกประสงค์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้ากลุ่ม Healthcare รวมทั้งธุรกิจพลังงานทดแทน ภายใต้การนำของ นายวันชัย คุณานันทกุล ประธานกรรมการบริษัทและผู้ก่อตั้ง ก้าวอย่างมั่นคงขึ้นสู่ปีที่ 71 พร้อมมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและขยายธุรกิจในทุกมิติมุ่งสู่เป้าหมายองค์กรแห่งความยั่งยืน
นายวันชัย คุณานันทกุล ประธานกรรมการบริษัทและผู้ก่อตั้ง กล่าวว่า “ความสำเร็จของสยามสตีลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เกิดจากความร่วมมือของกลุ่มผู้บริหาร และพนักงานที่พร้อมปรับตัวต่อทุกสถานการณ์ กลุ่มพันธมิตรที่ให้การสนับสนุน และที่สำคัญที่สุดลูกค้าผู้มีอุปการะคุณที่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ พันธมิตรที่สำคัญและมีส่วนในการสนับสนุนความสำเร็จของสยามสตีล อาทิเช่น Okaya & Co., Trading company ที่มีประวัติยาวนานกว่า 350 ปี Okamura Corp ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์อันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น และ Formica หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจำหน่าย High Pressure Laminate
ทั้งนี้ ผู้บริหารรุ่นใหม่ได้มีการกำหนดเป้าหมายร่วมกันในการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยมุ่งการบริหารงานโดยยึดหลักเพื่อการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของคนให้ดียิ่งขึ้น (For The Betterment of Life) และเน้นการพัฒนาธุรกิจที่มุ่งไปสู่ความยั่งยืน (Sustainability) โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ดังนี้
1.กลุ่ม healthcare ได้แก่ healthcare furniture, healthcare bed และ medical equipment เพื่อรองรับเป้าหมายของประเทศไทยในการเป็น medical hub ของโลก และรองรับความต้องการของสังคมสูงวัยที่เติบโตขึ้นทั่วโลก โดยล่าสุดทางบริษัทได้ Paramount Bed ที่เป็นผู้ผลิตเตียงผู้ป่วยรายใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรในการขยายธุรกิจกลุ่ม Healthcare
2.กลุ่มอาคารสำเร็จรูปและงานรับเหมาก่อสร้าง โดยบริษัทได้เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้างสำเร็จรูป เพื่อลดระยะเวลาก่อสร้างและมลภาวะระหว่างงานก่อสร้าง รวมถึงกำลังเริ่มต้นในธุรกิจก่อสร้างงานการไฟฟ้าอีกด้วย บริษัทมีเป้าหมายในการขยายผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมภายใต้กรอบ Sustainable Development Goals (SDGs)
3.กลุ่มตู้นิรภัย และ Civil Products โดยบริษัทได้มุ้งเน้นการพัฒนาสินค้า security solution อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับตลาดปัจจุบันที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงทิศทางการต่อยอดสินค้าผนังกั้นน้ำ ด้วยการพัฒนาสินค้าสำหรับกลุ่มลูกค้าเอกชนและ end consumer
4.กลุ่มพลังงานทดแทน (Renewable Energy) บริษัทให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ Climate Change ในการลดและปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานฟอสซิลมาสู่การใช้พลังงานทดแทน (Renewable Energy) และมุ่งไปสู่การดำเนินธุรกิจสีเขียว (Green Business) มากยิ่งขึ้น
สยามสตีลพร้อมพัฒนาศักยภาพและยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน และบริษัทในเครือ ให้ก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ไปพร้อมกัน มุ่งให้ความสำคัญกับการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นปณิธานที่ สยามสตีล ตั้งใจและอยู่เคียงข้างคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
ความสำเร็จจากความมุ่งมั่นตลอด 70 ปี ได้ปรากฏประจักษ์พยานให้เห็นว่า สยามสตีลเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ครบวงจรภายใต้เครื่องหมายการค้า “LUCKY” “KINGDOM” “SIAMSTEEL” “OKAMURA” ตู้นิรภัย KINGDOM รวมทั้งผลิตและจำหน่ายอาคารสำเร็จรูปอเนกประสงค์ “LUCKY Building System” ห้องน้ำสำเร็จรูป ผนังกั้นน้ำ (WSP) รวมไปจนถึงการรับรองมาตรฐาน ISO ต่าง ๆ เช่น ISO 9001 ISO 14001 ISO 45001 ISO50001
นอกจากนั้นบริษัทยังได้รับเครื่องหมายฉลากเขียวสำหรับผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์เป็นรายแรกในประเทศ
ไทย ได้รับอนุมัติให้ใช้เครื่องหมาย Made in Thailand (MIT) ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย (มอก.) ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ได้รับเกียรติบัตรรับรอง “อุตสาหกรรมสีเขียว (Green System)”
ผลงานที่โดดเด่นของสยามสตีลที่ผ่านมาได้แก่
1.Tsunami Shelter สยามสตีลมีโอกาสในการช่วยเหลือในเหตุการณ์สึนามิครั้งยิ่งใหญ่ที่พัดถล่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2004 โดยผลิตและส่งมอบบ้านจำนวน 22,000 หลัง ให้ผู้ประสบภัยสึนามิที่เมืองบันดาร์อาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้การบริจาคของกาชาติสากล โดยสามารถส่งของได้เร็วกว่ากำหนด โดยใช้เวลาเพียง 6 เดือน จึงเป็นที่มาของหนังสือชมเชยที่สยามสตีลได้รับจากกาชาติสากล (IFRC)
2.Gorgon Project ในปี 2009 กับอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของสยามสตีลกับการได้รับการไว้วางใจจากบริษัทน้ำมันข้ามชาติยักษ์ใหญ่ ที่เกาะ Borrow ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งนับได้ว่าเป็นโครงการที่เม็ดเงินลงทุนเยอะที่สุดในโลก ณ เวลานั้น ในการส่งมอบ Building Complex สำหรับ Gorgon Project เพื่อใช้สำหรับเป็นที่พักอาศัยของพนักงานมากกว่า 4,000 คน
3.ศูนย์ราชการ ในปี 2007 โครงการก่อสร้าง และตกแต่งภายในพร้อมครุภัณฑ์ ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร (ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา) อาคารสำนักงาน A-B มูลค่ารวม 929 ล้านบาท
4.อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า กับโครงการตกแต่งภายในพร้อมครุภัณฑ์ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ทั้งผู้ป่วยพิเศษเตียงเดี่ยว, ผู้ป่วยพิเศษติดเชื้อ, ผู้ป่วยพิเศษ Premium ตลอดจนห้องพักผู้ป่วยพิเศษ VIP มูลค่าโครงการรวม 177 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆอย่างต่อเนื่องโดยให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพ และการให้บริการที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และคงอยู่ภายใต้จริยธรรมธุรกิจ หลักธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืนตลอดไป