ผู้จัดการรายวัน 360 - “กูลิโกะ” ชูไทยตลาดสำคัญ เดินหน้าขยายกลุ่มสินค้าที่สาม สินค้าเพื่อสุขภาพ เปิดตัว อัลมอนด์โคกะ นมอัลมอนด์ในไทยที่แรกในอาเซียน ชิงตลาดพันล้าน จัดเต็มแผนการตลาดหวังผู้นำในสามปี
นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย กูลิโกะ จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นตลาดหลักสำคัญแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกูลิโกะญี่ปุ่น หลังจากที่เข้ามาทำตลาดผลิตภัณฑ์กูลิโกะเมื่อประมาณ 50 ปีที่ผ่านมาแล้ว และได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด
ล่าสุดกูลิโกะญี่ปุ่นได้ตัดสินใจเลือกไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือเซาท์อีสต์เอเชีย ในการเปิดตัวและทำตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มที่สาม คือ สินค้าเพื่อสุขภาพ คือผลิตภัณฑ์ กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ จากเดิมที่นมอัลมอนด์นี้ทำตลาดในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2014 และก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดภายใน 1 ปี ด้วยส่วนแบ่งตลาด 80% ตามด้วยจีนเมื่อปี ค.ศ. 2021 และปีที่แล้วที่ไต้หวันก็เป็นผู้นำตลาดเช่นกัน
ทั้งนี้ ไทยจึงมี 3 กลุ่มธุรกิจแล้ว คือ ขนมช็อกโกแลตและของหวาน เช่น กูลิโกะ ป๊อกกี้ แอลฟี่ เป็นต้น ที่เริ่มในไทยมาเกือบ 50 ปี ปีที่แล้วกลุ่มนี้โตมากกว่าตลาดรวมที่โตเพียง 7%, ไอศกรีมที่เริ่มเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เช่น พาลิตเต้ ไจแอนท์โคน พาเนปป์ ซูนาโอะ เป็นต้น กลุ่มนี้ก็โตมากกว่าตลาดไอศกรีมรวมเช่นกันที่โต 4% และกลุ่มล่าสุดคือสินค้าเพื่อสุขภาพ ยังมีอีก 1 กลุ่มที่ไทยยังไม่ได้ทำตลาด คือ วัตถุดิบอาหาร
นายเฉลิมพงษ์กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาตลาดนมอัลมอนด์ในไทยมาระยะหนี่งแล้ว ซึ่งพบว่าตลาดมีการเติบโตดีแม้จะยังเป็นตลาดเล็กอยู่เพราะอยู่ในช่วงเริ่มต้น ด้วยมูลค่าตลาดประมาณ 960-1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มเป็นสามเท่าหรือมูลค่า 3,000 ล้านบาทภายในช่วงปี พ.ศ. 2569 จึงมีความน่าสนใจ ผู้บริโภคเริ่มให้การยอมรับมากขึ้น และที่สำคัญผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ซึ่งขณะนี้พบว่ามีผู้เล่นในตลาดมากกว่าสิบแบรนด์แล้วทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ ซึ่งตลาดเติบโตสอดคล้องกับนมแพลนต์เบส นมถั่วต่างๆ เช่นกัน แต่ตลาดนมอัลมอนด์ใหญ่ที่สุดประมาณ 60-70%
นางสาวดวงกมล ชุลิกาวิทย์ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มงานการตลาด กล่าวว่า บริษัทฯ ใช้งบการตลาดมากเพียงพอที่จะทำการรุกตลาดของ กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ “Almond Koka” เต็มที่ ซึ่งได้เริ่มวางสินค้าตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาแล้ว ทั้งในคอนวีเนียนสโตร์ ซูเปอร์มาร์เกต ไฮเปอร์มาร์เกต ครอบคลุมทุกช่องทางการจำหน่าย เจาะกลุ่มคนทั่วไปทุกเพศทุกวัย กลุ่มคนที่รักสุขภาพ ผู้ที่แพ้นมวัว และแพ้น้ำตาลแลคโตสที่มีอยู่ในนมวัว โดยมีเป้าหมายติดท็อปทรีในช่วงปีแรก และก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดให้ได้ภายใน 3 ปี
กลยุทธ์หลักๆ คือ สร้างการรับรู้สินค้าไปยังกลุ่มเป้าหมาย ผ่านกิจกรรมการตลาด การโฆษณาต่างๆ มีการใช้พรีเซ็นเตอร์คือ นางเอกดัง “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่” และการใช้ KOL การใช้สื่อโฆษณา เช่น เอาต์ออฟโฮมมีเดียเคลื่อนที่บนบีทีเอส การจัดแถลงข่าว การแจกสินค้าตัวอย่างชิมฟรี การจัดงานกูลิโกะคาร์นิวัลในพื้นที่ต่างๆ การจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ เพื่อร่วมกันผลักดันสินค้าในรูปแบบต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี หรือที่ญี่ปุ่นก็ร่วมกับร้านชาบู ร้านสปาเกตตี เอาผลิตภัณฑ์ไปเป็นส่วนประกอบ
เบื้องต้นทำตลาดรวม 3 รสชาติ คือ สูตรดั้งเดิม สูตรไม่เติมน้ำตาล และสูตรช็อกโกแลต ขนาดกล่องบรรจุ 180 มิลลิลิตร กล่องละ 25 บาท ถ้าเป็นแพก 3 กล่องราคา 74 บาท ซึ่งถ้าหากนำเข้ามาจำหน่ายขนาดนี้ต้องเสียภาษีรวมแล้วราคาจะอยู่ที่ 180 บาทต่อกล่อง ส่วนขนาด 1 ลิตร จะเริ่มวางจำหน่ายกลางปีนี้ และอนาคตอาจจะมีแบบพาสเจอไรซ์ ซึ่งในญี่ปุ่นมีจำหน่ายแล้ว
จุดเด่นของ อัลมอนด์ โคกะ คือรสชาติที่บริษัทฯ มั่นใจว่ามีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ แม้ว่าจะทำการผลิตในประเทศไทยโดยบริษัทมาลี เพราะใช้อัลมอนด์อบจากประเทศอเมริกาและออสเตรเลียมาผลิต
นายเฉลิมพงษ์กล่าวด้วยว่า ธุรกิจของกูลิโกะญี่ปุ่นนั้นมีสัดส่วนรายได้ดังนี้ ขนมของหวานและอาหารแปรรูป สัดส่วน 22%, ไอศกรีม 26%, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม 22%, วัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร 4%, ธุรกิจในต่างประเทศทั่วโลก 20% และอื่นๆ 6%