xs
xsm
sm
md
lg

WHAUP ลุยขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนแตะ 300 MW

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



WHAUP ดึงโซลูชันใหม่เพื่อขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 300 MW พร้อมลุ้นผลตัดสินโครงการ Feed-in Tariff (FiT) 5 โครงการในเร็วๆ นี้  

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยถึงแผนการขยายธุรกิจในปี 2566 ว่า บริษัทฯเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจการลงทุนผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ สู่การเติบโตอย่างยั่นยืน โดยมุ่งเน้นต่อยอดธุรกิจภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ทั้งในไทยและเวียดนาม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ รวม 5 ปี (2566-2570) ที่ 27,000 ล้านบาท โดยตั้งงบลงทุนภายใน 5 ปีไว้ที่ 18,500 ล้านบาท สำหรับแผนการลงทุนดังกล่าว จะลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้เพื่อขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากขยะอุตสาหกรรม และพลังงานประเภทอื่นๆ ตั้งเป้ายอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสะสมเพิ่มเป็น 300 เมกะวัตต์

ล่าสุดบริษัทฯ ได้เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ซึ่งเปิดรับซื้อโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน โดยผ่านการคัดเลือกด้านเทคนิคจำนวน 5 โครงการ คาดว่าจะทราบผลการตัดสินรอบสุดท้ายภายในเดือนเมษายนนี้

“WHAUP มุ่งลงทุนธุรกิจสาธารณูปโภคในรูปแบบต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดการเติบโตและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยเน้นการใช้นวัตกรรมโซลูชันต่างๆ เพื่อพัฒนาสินค้า และบริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งลูกค้า ชุมชน และสังคม เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่มจาก Wastewater Reclamation หรือการนำน้ำเสียที่บำบัดแล้วมาใช้ใหม่ ช่วยให้ลูกค้ามีน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูงใช้ในราคาที่ถูกลง และลดปริมาณน้ำเสียที่จะถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ  สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน และให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล”

ผลการดำเนินงานงวดปี 2565 มีรายได้จำนวน 2,790 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 454 ล้านบาท ลดลง 38% โดยรายได้รวมจากธุรกิจจำหน่ายน้ำและไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปีก่อน แต่บริษัทได้รับผลกระทบทางลบจากต้นทุนพลังงานทั้งก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า SPP และ IPP ลดลง

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้จ่ายปันผลรวมสำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 ที่ 0.16 บาทต่อหุ้น โดยเป็นเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายให้ผู้ถือหุ้นไปแล้วจำนวน 0.06 บาทต่อหุ้น และเงินปันผลที่จะจ่ายเพิ่มเติมอีก 0.10 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 เมษายน 2566 และกำหนดการจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2566


กำลังโหลดความคิดเห็น