ครม.อนุมัติ รฟม.เปลี่ยนแปลงวงเงินรถไฟฟ้าสายสีม่วง "เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ" โยกค่าเวนคืน 1,322 ล้านบาทไปเป็นค่าทดแทนรื้อย้ายโรงเรียนสรรพาวุธทหารบกไปสร้างใหม่ที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง โดยไม่เกินกรอบวงเงินรวมเดิมทั้งโครงการ 1.01 แสนล้านบาท
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ก.พ. 2566 ได้อนุมัติทบทวนมติ ครม. วันที่ 25 ก.ค. 2560 ที่อนุมัติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาโครงการถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอขอเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินรายการดำเนินงานตามโครงการฯ ในการปรับลดวงเงินรายการค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 1,322.43 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือจากกรอบวงเงินเดิมที่ 15,913 ล้านบาท เป็น 14,590 ล้านบาท เพื่อนำวงเงินดังกล่าวไปปรับเพิ่มเป็นรายการค่าก่อสร้างทดแทนหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างที่เพิ่มในส่วนของกองทัพบก (ทบ.) ซึ่งจะทำให้วงเงินในส่วนดังกล่าวเพิ่มจากเดิม 1,335 ล้านบาท เป็น 2,658 ล้านบาท ทั้งนี้ กรอบวงเงินโครงการในภาพรวมยังคงอยู่ภายใต้กรอบงบประมาณเดิมที่ ครม.ได้อนุมัติไว้ที่ 101,112 ล้านบาท
การปรับเพิ่มค่าสิ่งปลูกสร้างทดแทนฯ ดังกล่าวอยู่ในช่วงการก่อสร้างของสัญญาที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 4.8 กิโลเมตร ที่เดิมขอบเขตงานได้ให้ผู้รับจ้างงานโยธาต้องดำเนินการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างทดแทนของหน่วยงานของกองทัพบก (ทบ.) และหน่วยงานอื่นๆ วงเงิน 1,069 ล้านบาท (ส่วนของ ทบ. 1,028 ล้านบาท และหน่วยงานอื่นๆ 41 ล้านบาท) โดยพื้นที่ของ ทบ.ได้รับผลกระทบจากโครงการ ประกอบด้วย กรมสรรพาวุธทหารบก, กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน, กรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพันทหารม้าที่ 4 กองพลที่ 1 รักษาพระองค์
โดย ทบ.แจ้งว่างบประมาณที่ได้รับไม่เพียงพอต่อการดำเนินการย้ายที่ตั้งของหน่วย เนื่องจากอาคารบริเวณที่ตั้งเดิมของโรงเรียนสรรพาวุธทหารบกมีการใช้ อาคาร/สิ่งปลูกสร้างและระบบสาธารณูปโภคร่วมกับหน่วยงานที่อยู่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเมื่อต้องย้ายหน่วยไปอยู่พื้นที่ใหม่ที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จะต้องย้ายกำลังพลและครอบครัวไปอยู่พื้นที่แห่งใหม่ทั้งหมด ทบ.จึงยืนยันข้อเสนอรายการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างฯ วงเงินรวม 2,350.05 ล้านบาท ทำให้รายการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างฯ ที่ได้รับอนุมัติจาก ครม.เดิมวงเงิน 1,027.62 ล้านบาทไม่เพียงพอ เพราะมีรายการก่อสร้างฯ (เพิ่มเติม) อีก 1,322.43 ล้านบาท
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ภายหลังเปลี่ยนแปลงรายการดำเนินงานตามโครงการฯ แล้ว กรอบวงเงินเพื่อดำเนินการตามโครงการฯ จะมีดังนี้ ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 14,590 ล้านบาท ค่าสำรวจอสังหาฯ 32 ล้านบาท (คงเดิม) ค่าก่อสร้างงานโยธา 77,385 ล้านบาท (คงเดิม) ค่าสิ่งปลูกสร้างทดแทนฯ 2,658 ล้านบาท ค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารและคุมงานก่อสร้าง 2,865 ล้านบาท (คงเดิม) ค่า Provisional Sum 3,582 ล้านบาท (คงเดิม) รวมทั้งสิ้น 101,112 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดการก่อสร้างงานโยธาของโครงการฯ ประกอบด้วย 6 สัญญา โดยสัญญาที่ 1-4 เป็นงานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน แยกเป็น สัญญาที่ 1 ช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 4.8 กิโลเมตร, สัญญาที่ 2 ช่วงหอสมุดแห่งชาติ-ผ่านฟ้าฯ ระยะทางประมาณ 2.4 กิโลเมตร, สัญญาที่ 3 ช่วงผ่านฟ้าฯ-สะพานพุทธ ระยะทางประมาณ 3.1 กิโลเมตร และสัญญาที่ 4 ช่วงสะพานพุทธ-ดาวคะนอง ระยะทางประมาณ 4.1 กิโลเมตร ส่วนสัญญาที่ 5 เป็นงานก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งและสถานียกระดับ ดาวคะนอง-ครุใน ระยะทางประมาณ 9.0 กิโลเมตร และสัญญาที่ 6 งานออกแบบและก่อสร้างระบบราง