GPSC เดินหน้าแสวงหาโอกาสร่วมมือกับพันธมิตรในการศึกษาและลงทุนโครงการพลังงานหมุนเวียน วางเป้าปี 73 มีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50%
นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า ในปี 2565 เป็นปีที่บริษัทฯ เผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกที่เข้ามา แต่บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้ความสำคัญต่่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทผลิตไฟฟ้าชั้นนําด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนในระดับสากล ทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices-DJSI) ในกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets Index) ประเภทอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นปีแรกด้วยคะแนนมิติด้านสังคมสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มสาธารณูปโภคโรงไฟฟ้าทั่วโลก สะท้อนความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าในการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% ในปี 2573
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นที่จะแสวงหาโอกาสร่วมมือกับพันธมิตรในการศึกษาและลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพตามกลยุทธ์ 4S ประกอบด้วย S1: Strengthen and Expand the Core การสร้างความแข็งแกร่งที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าให้มากขึ้น S2: Scale-Up Green Energy มุ่งเพิ่มสัดส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน S3: S-Curve & Batteries การพัฒนานวัตกรรมพลังงานและธุรกิจแห่งอนาคต S4: Shift to Customer-Centric Solutions บริการโซลูชันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งในด้านการผลิตไฟฟ้าและสาธารณูปโภค เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมทั้งยังได้กำหนด กลยุทธ์หลักในการพัฒนาพลังงานสะอาดให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งได้รับการยอมรับกระทั่งได้รับรางวัลทั้งในประเทศและระดับสากลหลายแห่ง
ในปี 2566 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เห็นชอบการปรับค่า Ft แบ่งออกเป็น 2 กรณี สำหรับเรียกเก็บรอบเดือนมกราคม-เดือนเมษายน 2566 กรณีสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านที่อยู่อาศัยเรียกเก็บในอัตราเดิม 93.43 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เรียกเก็บที่ 154.92 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจาก 61.49 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งสถานการณ์พลังงานยังมีราคาที่ผันผวนสูง เป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานในทุกด้าน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับปัจจัยเสี่ยงในด้านต่างๆ
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2565 อีก 0.30 บาทต่อหุ้น สืบเนื่องจากผลการดำเนินงานปี 2565 GPSC มีรายได้รวมทั้งสิ้น 123,685 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบกับปี 2564 และมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 891 ล้านบาท ลดลง 6,428 ล้านบาท หรือ 88% จากปี 2564