xs
xsm
sm
md
lg

CRC ลุยแผน 5 ปี ทุ่ม 1.5 แสนล. ดันรายได้โต 2.5 เท่าผ่าน4กลยุทธ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 – ซีอาร์ซี/CRCเดินหน้าลุย เปิดแผน 5 ปี ทุ่มงบลงทุน 1.5 แสนล้านบาท ดังรายได้รวมเติบโต 2.5 เท่า มาร์เก็ตแคป เติบโต 2.5 เท่า ภายในปี 2570 ผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ซีอาร์ซี / CRC เปิดเผยว่า บริษัทฯวางแผนงาสนการการาดำเนินงานในช่วง 5 ปีจากนี้ (ปีพ.ศ. 2566 – 2570) ภายใต้ยุทธศาสตร์ CRC Retailligence เพื่อนำ 5 กลุ่มธุรกิจมุ่งสู่ความเป็น The Next Sustainable Growth โดยใช้งบประมาณการลงทุนรวมมากกว่า 150,000 ล้านบาท ในการขยายพอร์ตธุรกิจให้เติบโตทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี
 
โดยคาดว่าจะสร้างรายได้รวมเติบโต 2.5 เท่า, มาร์เก็ตแคป เติบโต 2.5 เท่า และ อีบิทด้า เติบโต3.5 เท่า ซึ่งสัดส่วนรายได้ในอีก 5 ปี แบ่งเป็น จากไทย 65% จากเวียดนาม 30% และจากอิตาลี 5% และตั้งเป้ารายได้จากออมนิแชนแนลจะมีสัดส่วน 25%
สำหรับเป้าหมายสู่  The Next Sustainable Growth ของเซ็นทรัล รีเทล จะผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก คือ


1. Accelerate Core Leadershipเร่งสร้างการเติบโตของกลุ่มธุรกิจหลักในทั้ง 3 ประเทศ ด้วย 5 กลุ่มธุรกิจหลัก 1.1 กลุ่มแฟชั่น ตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มแฟชั่น โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายห้างสรรพสินค้าลักชูรี่ในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อต่อยอดธุรกิจกลุ่มแฟชั่นให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งสินค้าใหม่ แบรนด์ใหม่ และเชื่อมต่อแพลตฟอร์มของห้างลักชูรี่ทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้าสามารถช้อปปิ้งจากทุกห้างของกลุ่มได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมทั้งเดินหน้าขยาย และรีโนเวทสาขาอย่างต่อเนื่อง, 1.2 กลุ่มฮาร์ดไลน์ เสริมแกร่งความเป็นผู้นำในกลุ่มฮาร์ดไลน์ของประเทศไทย ด้วยการเร่งเครื่องขยายสาขาใหม่ของไทวัสดุ และไทวัสดุ ไฮบริด ฟอร์แมท

1.3 กลุ่มฟู้ด สร้างการเติบโตในเวียดนามอย่างก้าวกระโดด รวมถึงผลักดันแบรนด์ Tops ขึ้นเป็น Food Discovery & Destination และ เบอร์ 1 Food Omni Retailer , 1.4 กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ขึ้นแท่นผู้นำศูนย์การค้า Lifestyle and Experiential Community Platform ของประเทศไทย ด้วยการขยายและรีโนเวทศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในปีนี้ นอกจากนี้ในเวียดนามก็มีการก่อสร้างศูนย์การค้า GO! สาขาใหม่ๆ เพื่อเตรียมเปิดอีก 6-8 สาขา ในปี 2567 และ 1.5 กลุ่มเวลเนส (Wellness) เช่น ร้านท็อปส์แคร์ ร้านท็อปส์วีต้า ร้านเพ็ทแอนด์มี เพื่อตอบสนองเทรนด์ดูแลรักษาสุขภาพที่มีมากขึ้น


2. Reinvent Next-Gen Omni Retail - ยกระดับ CRC Ecosystem ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีและระบบต่างๆ ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก มาสร้างการเติบโตแบบ Inclusive Growth ให้ทั้งลูกค้า แบรนด์ และพาร์ทเนอร์ บนแพลตฟอร์ม Next-Gen Omni Retail เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกมิติให้แก่ผู้บริโภค ทั้งในด้าน Experience-driven ที่เชื่อมโยงทุกช่องทางอย่างไร้รอยต่อ การใช้ AI เพื่อมอบสินค้าและบริการที่ตรงใจลูกค้าแบบ Smart Retail รวมถึงการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็ว ตามเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปด้วย Agile Commerce และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกที่ทุกเวลาแบบ Multi-Moment

3. Build New Growth Pillars ต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น โดยมีแผนเปิดตัวธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อเสริมทัพธุรกิจในประเทศไทยและเวียดนาม มีแผนเปิดตัวธุรกิจใหม่ภายในครึ่งปีหลัง

4. Drive Partnership, Acquisition and Spin Off ขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรและการทำ M&A พร้อมนำ MEB เบอร์ 1 แพลตฟอร์ม E-Book เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เสนอขายหุ้น IPO แก่ประชาชนทั่วไป ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นี้


“ทั้ง 4 กลยุทธ์ดังกล่าว จะทำให้เซ็นทรัล รีเทล เติบโตสู่ The Next Sustainable Growth ตามแผนโดยเราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ตอกย้ำการเป็น Green & Sustainable Retail ผ่าน 4 กลยุทธ์ ‘ReNEW’ โดยตั้งเป้าระยะสั้นในปี 2566 ที่จะนำพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ให้ได้ 30%, ลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบ 10% และลดการใช้น้ำ 10%, เพิ่มการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสัดส่วน 20% ของสินค้าทั้งหมด และเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากการปลูกป่าอีก 5,000 ไร่ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก” นายญนน์ กล่าว

ทั้งนี้ปีนี้ปีแรกตามแผน (พ.ศ.2566) วางงบลงทุนรวมไว้กว่า 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนการลงทุน ในไทย 75% และต่างประเทศคือเวียดนามเป็นหลัก 25% ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 15% หรือมีรายได้รวมกว่า 270,000 ล้านบาท โดยงบประมาณ 2,000 ล้านบาท จะนำมาใช้ในเรื่องของระบบไอทีต่างๆ

สำหรับแผนลงทุนหลักๆในปีนี้ ทางด้านออฟไลน์สโตร์ คือ ห้างสรรพสินค้า มี 86 สาขา ปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ปรับปรุงอีก 15 สาขา, ร้านไทวัสดุ มี 80 สาา จะเปิดใหม่อีก10 สาขา และปรับปรุง 16 สาขา, ท็อปส์ มี 174 สาขา เปิดใหม่ 15 สาขา ปรับปรุง26 สาขา, โรบินสันไลฟ์สไตล์ มี 28 สาขา เปิดใหม่ 1 สาขา ปรับปรุง 1 สาขา และ ร้านโก ในเวียดนาม มี 39 สาขา เปิดใหม่ 5-7 สาขา ปรับปรุง 10 สาขา ซึ่งในประเทศเวียดนามจะเน้นธุรกิจอาหารกับอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่ปีที่แล้ว(2565) ซีอาร์ซีมีรายได้รวมเติบโต20% โดยสัดส่วนจากช่องทางออมนิแชนแนลมีประมาณ 18% ซึ่งภาพรวมค้าปลีกเริ่มกระเตื้องดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ปีที่แล้วการมีมาตรการช้อปดีมีคืนที่ช่วยกระตุ้นภาพรวมค้าปลีกได้ 2-3% รวมทั้งการเปิดประเทศด้านการท่องเที่ยวเต็มที่ทำให้่ภาพรวมเศรฐกิจคึกคักมากขึ้น

"ด้วยสภาพความไม่แน่นอนต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น เราจึงต้องมีการจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยCapex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดในกลยุทธ์ธุรกิจและเร่งขยาย Proven Format และ Cash Flow ขยายขีดความสามารถในการจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้มีความรวดเร็ว คล่องตัว และเพิ่มกระแสเงินสดให้มากขึ้น สำหรับสร้างการเติบโตทางธุรกิจต่อไป" นายญนน์ กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น