ผู้จัดการรายวัน 360 - “JKN” เปิดแผนขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเป็น Global Content Commerce Company ภายใต้ Ecosystem ของกลุ่มฯ หลังเป็นเจ้าขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส นำแบรนด์มาต่อยอดสู่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคดันการเติบโตทุกกลุ่ม ด้านที่ประชุมบอร์ดฯ มีมติปรับลดการออกหุ้น RO และกำหนดอัตราใช้สิทธิ 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคา 3 บาท
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า วิชันของ JKN จะสร้างการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การเป็น Global Content Commerce Company สร้างการเติบโตทางธุรกิจ ภายใต้โครงสร้างการดำเนินงานรองรับแผนยุทธศาสตร์บริษัทฯ จากผู้นำธุรกิจคอนเทนต์ระดับภูมิภาคอาเซียน ก้าวสู่บริษัทชั้นนำระดับ Global Company ด้วยความเชี่ยวชาญจากการบริหารลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ดังระดับโลก Output Deal เพื่อจำหน่ายแก่คู่ค้าในทุกแพลตฟอร์มทั้งใน และต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำประสบการณ์ธุรกิจ Content มาต่อยอดสู่ธุรกิจ Commerce ใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Wellness Product), ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม (Beverage Product) และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Cosmatic) โดยสื่อสารการตลาดผ่านช่อง JKN18 และ JKN Hi shopping ตลอด 24 ชั่วโมง และจำหน่ายผ่าน Omni Channel และ Social Commerce และการวางรากฐานทางธุรกิจจากการเป็นเจ้าของช่อง JKN18 รวมถึงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ JKNCNBC สถานีข่าวเศรษฐกิจตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยส่งเสริมฐานผู้ชมและเรตติ้งของช่อง JKN18 ปรับตัวดีขึ้นสู่เป้าหมาย Top10 ทำให้เพิ่มโอกาสจำหน่ายสินค้าในกลุ่ม Commerce
ส่วนกลุ่มธุรกิจองค์กรมิสยูนิเวิร์ส หรือ MUO ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของ JKN ด้วยโครงสร้างรายรับ 9 ด้านที่มีแผนดำเนินงานชัดเจน สะท้อนจากความสำเร็จจากการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 71 ที่ผ่านมา มั่นใจว่าปีนี้จะทำรายได้ 1,200 ล้านบาท หลังจากประเทศเอลซัลวาดอร์ได้ทุ่มงบ 400 ล้านบาทเพื่อสิทธิ์เป็นเจ้าภาพการจัดการประกวด และล่าสุดมีอีก 2 ประเทศเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพในปี 2024-2025 แล้ว และมีแผนนำแบรนด์มิสยูนิเวิร์สต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคจะเริ่มทำตลาดเครื่องดื่ม คาดจะเปิดตัวได้ในไตรมาสแรกปีนี้
“ปีนี้จะเป็นปีที่ JKN จะเก็บเกี่ยวรายได้จากการดำเนินงานอย่างเต็มที่ จะตั้งเป้าเติบโตถึง 80% หรือมีรายได้เกือบ 4,000 ล้านบาท หลังวางรากฐานทางธุรกิจทำให้ JKN มี Ecosystem ผลักดันการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ Global Content Commerce Company” จักรพงษ์กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ JKN กล่าวว่า ความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจ MUO ที่ผ่านมา ทำให้มีสภาพคล่องจากการดำเนินงานที่ดีขึ้น ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 จึงพิจารณาแผนออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right offering หรือ RO) จึงมีมติยกเลิกมติคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 ในการออกหุ้นเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน RO จำนวน 1,019,917,296 หุ้น และยกเลิกวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 ที่กำหนดจัดในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้เห็นชอบการกำหนดออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน RO ลดลงเหลือจำนวน 510,043,387 หุ้น เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม และเปลี่ยนอัตราการใช้สิทธิเป็น 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขาย 3 บาทต่อหุ้น และจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อขายเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement หรือ PP) ให้แก่ บริษัท ยูนิสเตรทช์ จำกัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ GP Group ภายใต้การบริหารงานของคุณนิชิต้า ชาห์ และครอบครัวชาห์ เพื่อเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ MUO จำนวน 66,666,666 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขาย 4.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 300,000,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและสูงกว่าการคำนวณจากราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลังไม่น้อยกว่า 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในครั้งนี้ โดยจะเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาต่อไป
“การตัดสินใจเลื่อนการออกและลดจำนวนการออกหุ้น RO เพราะต้องการปรับโครงสร้างทางการเงินให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของ JKN ในปีนี้ ที่จะรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจ MUO เข้ามาเพิ่มเติม และไม่กระทบต่อฐานทุนในการเตรียมขยายธุรกิจเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่การดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างแน่นอน” จักรพงษ์กล่าว