ผู้จัดการรายวัน 360 - “เอ็ม บี เค” เดินหน้าจัดทัพโครงสร้างธุรกิจ 8 กลุ่มรองรับการขยายตัว ปีนี้ทุ่มงบกว่า 2,000-3,000
ล้านบาท ลุยเต็มสูบ ปรับโฉมครั้งใหญ่พาราไดซ์ พาร์ค
นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรของธุรกิจ โดยจัดตั้งบริษัทย่อยตามกลุ่มธุรกิจและให้บริษัท เอ็ม บี เค เป็นโฮลดิ้งคอมปะนี เพื่อจัดองค์กรให้เป็นระบบทางด้านการลงทุน และเพิ่มขีดความสามารถและความคล่องตัวรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งการเตรียมผลักดันบริษัทในเครือเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคตได้ด้วย เช่น ทีลิสซิ่ง ที่มีแนวโน้มจะเข้าตลาดฯ ได้ก่อน
ปัจจุบันเอ็ม บี เค มี 8 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจศูนย์การค้า ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ธุรกิจกอล์ฟ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจการเงิน ธุรกิจการประมูล และศูนย์สนับสนุนองค์กร สำหรับสัดส่วนรายได้หลักๆ เช่น ศูนย์การค้า 30%, ข้าว 30%, โรงแรม 15%, การาเงิน 15% ที่เหลืออื่นๆ รวมกัน
ปี 2566 นี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 ล้านบาทดำเนินธุรกิจโดยรวม อีกทั้งยังตั้งงบประมาณการซื้อที่ดินไว้เป็นแลนด์แบงก์ไว้ที่ 500 ล้านบาทอีกด้วย ส่วนใหญ่จะมีที่ดินในกรุงเทพฯ แต่ไม่ได้เป็นแปลงใหญ่ เช่น ตามแนวรถไฟฟ้า ขนาด 3 ไร่ หรือ 4 ไร่ เหมาะกับการสร้างคอนโดมิเนียม ส่วนแผนปีนี้เช่นการปรับโฉมพาราไดซ์ พาร์ค กว่า 1,000 ล้านบาท การปรับโฉมโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซสเฟสที่ 3 ประมาณ 200 กว่าล้านบาท การปรับปรุงต่อเนื่องของเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ กว่า 100 ล้านบาท และการลงทุนต่อเนื่องในโครงการใหญ่ บนพื้นที่ 1,500 ไร่ในโครงการ Riverdale District อาณาจักร Mixed Use บนพื้นที่ทำเลทองของจังหวัดปทุมธานี โดยเงินลงทุนมาจากกระแสเงินสดหมุนเวียนซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 4,000 ล้านบาท
ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในระดับใกล้เคียงกับปี 2562 ที่มีรายได้รวม 11,431.12 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่หลังจากปี 2565 คาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของรายได้กลับไปใกล้เคียงที่ระดับ 10,000 ล้านบาท จากปี 2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 8,195.61 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้นจากกาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
นายวิจักษณ์ ประดิษฐวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งมีผลเมื่อต้นปีนี้ กล่าวว่า เอ็ม บี เค เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงแข็งแกร่ง มีสภาพคล่องทางการเงินสูง และมีการขยายธุรกิจให้มีความหลากหลายครอบคลุมทุกมิติของการใช้ชีวิต ในการเข้ารับตำแหน่งนี้จึงให้ความสำคัญต่อการสานต่อวิสัยทัศน์และพันธกิจในการเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำของประเทศ ต่อยอดความแข็งแกร่งและแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุน โดยโฟกัสการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและได้ผลตอบแทนที่มั่นคงสม่ำเสมอ รวมถึงเน้นการร่วมมือ (Synergy) ทั้งธุรกิจในเครือและพันธมิตร เพื่อขับเคลื่อนให้กลุ่มธุรกิจเอ็ม บี เค เติบโตอย่างยั่งยืนและให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2566 ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคคนไทยและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยมีสัญญาณบวกจากลูกค้าต่างชาติที่กลับเข้ามาใช้บริการในธุรกิจเครือเอ็ม บี เค ทั้งในส่วนของศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส สนามกอล์ฟในจังหวัดภูเก็ตอย่าง ล็อค ปาล์ม กอล์ฟ คลับ (Loch Palm Golf Club) และ เรด เมาน์เทน กอล์ฟ คลับ (Red Mountain Golf Club) โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท ลยานะ
รีสอร์ท แอนด์ สปา และโรงแรม ทินิดีไฮด์อเวย์ต้นไทร บีช กระบี่
โดยศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค วางแผนจะปรับโฉมครั้งใหญ่รอบ 13 ปี ให้เกิดความแตกต่างจากค้าปลีกในย่านนั้น ใช้งบกว่า 1,000 ล้านบาท ล่าสุดเพิ่งเซ็นสัญญาต่ออายุเช่าที่ดินออกไปอีก 20 ปี กับบริษัท เอส เอส เรียล (สวนหลวง) จำกัด จะปรับศูนย์ให้เป็นศูนย์รวมแห่งเวลเนส รองรับผู้สูงวัยที่มีเพิ่มขึ้นในไทย จะมีร้านค้าสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเป็นหลัก จะเพิ่มร้านอาหาร เพิ่มร้านบริการต่างๆ ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดเสรีมาร์เก็ตยังอยู่ โดยจะไม่มีพวกร้านแฟชั่น ไม่มีโรงหนัง
ส่วนศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จะปรับต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ามาใช้บริการประมาณ 80,000 คนต่อวัน ใกล้เคียงกับช่วงปกติ แต่เป็นคนไทยมากกว่าคนต่างชาติ 15% จากเดิมที่เป็นลูกค้าต่างชาติมากกว่า แต่หลังจากนี้คาดว่าลูกค้าต่างชาติจะทยอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง