นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม(สส.) เปิดเผยว่า เทศกาล “ตรุษจีน” เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน มีการรวมญาติ รับประทานอาหารร่วมกัน พร้อมมอบ “อั่งเปา” ให้ลูกหลาน รวมถึงมีการไหว้เทพเจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และขอพร ซึ่งต้องมีการจุดธูป เผากระดาษเงินกระดาษทอง และจุดประทัด เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ในการนี้กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเทศกาลตรุษจีน
“เริ่มง่ายๆ จากตัวเอง ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถร่วมกันได้ โดยเฉพาะในประเพณีสำคัญอย่างตรุษจีน อาทิ ใช้อั่งเปารีไซเคิล เมื่อผู้รับอั่งเปาแกะซองนำเงินแต๊ะเอียออกมาแล้ว ก็ให้นำซองแดงกลับไปคืนผู้ที่มอบให้ เก็บมาใช้ใหม่ในปีหน้า ไหว้โดยใช้ธูปสั้น ควันน้อย ลดปริมาณการเผากระดาษเงินกระดาษทองให้น้อยลง เพราะจากข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์บริการ พบว่ามีโลหะหนักถึง 4 ชนิด คือ โครเมียม นิกเกิล ตะกั่ว และแมงกานีส ในขี้เถ้าธูปและขี้เถ้าจากการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งทำให้เกิดควันที่มีสารมลพิษ สารก่อมะเร็ง เมื่อสูดหายใจเข้าไปจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้น เวลาจุดธูปหรือเผากระดาษเงินกระดาษทอง แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดหลังสัมผัส เพื่อลดการนำสารพิษเข้าสู่ร่างกาย อีกทั้งควรมีการคำนวณปริมาณอาหารสำหรับการไหว้ ให้พอเหมาะกับคนในครอบครัว ปรับการเลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ถุงผ้าเวลาไปจับจ่ายซื้อของ ลดการใช้ถุงพลาสติก คัดแยกขยะ ทิ้งขยะให้ถูกที่ ใช้น้ำและพลังงานอย่างประหยัด ตลอดจนใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างคุ้มค่า”
ทั้งนี้เพื่อให้ตรุษจีนเป็นเทศกาลแห่งการเริ่มต้นวันขึ้นปีใหม่จีนที่ดี เป็นมิตรต่อเราและสิ่งแวดล้อม จากบรรพบุรุษส่งต่อให้ลูกหลาน ขอเชิญชวนชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวจีนในประเทศไทยทุกๆ คน ร่วมกันสืบทอดประเพณีโดยใช้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” นายสมศักดิ์ กล่าว