ผู้จัดการรายวัน 360 - “บิ๊กซี” เร่งเครื่องโมเดลร้านโดนใจ ติดลมปีนี้เร่งเพิ่มอีก 7,000 ร้านค้า “ดึง 3 แบงก์ใหญ่ และ 30 ซัปพลายเออร์รายใหญ่เข้ามาสนับสนุนเงินทุนและสินค้า เพื่อดึงดูดโชวห่วยเดิมเข้าระบบโดนใจ
นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนที่จะนำโมเดลร้านโดนใจออกโรดโชว์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจและแนะนำรายละเอียดให้กับร้านโชวห่วยทั่วประเทศได้รู้จักถึงระบบของร้านโดนใจที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนและช่วยเหลือร้านโชวห่วยดั้งเดิมให้ดีขึ้นได้อย่างไร หลังจากที่ได้เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว และมีร้านโชวห่วยอยู่ในระบบร้านโดนใจแล้วประมาณ 1,000 ร้านค้าตามเป้าหมายเมื่อสิ้นปีที่แล้ว โดยเฟสแรกจะเริ่มโรดโชว์จากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคกลางตามลำดับ เน้นในพื้นที่จังหวัดที่เป็นหัวเมือง เช่น อุบลราชธานี ขอนแก่น ภูเก็ต และชลบุรี เป็นต้น จะเริ่มโรดโชว์วันที่ 29 มกราคม นำร่องที่จังหวัดอุบลราชธานี จากทั้งหมด 9 จังหวัดในช่วงแรก
ขณะที่ปี 2566 นี้ตั้งเป้าหมายที่จะมีร้านโชวห่วยเข้าระบบร้านโดนใจอีกประมาณ 7,000 ร้านค้า และส่งผลให้สิ้นปีนี้รวมเป็น 8,000 ร้านค้า และเป้าหมายเดิมจะเพิ่มจำนวนเป็น 30,000 ร้านค้า ภายใน 5 ปีจากนี้ จากจำนวนร้านโชวห่วยในประเทศไทยที่มีมากกว่า 4 แสนร้านค้า ซึ่งยังมีโอกาสอีกมากที่จะขยายความช่วยเหลือร้านโชวห่วยเข้าระบบโดนใจได้เพื่อเป็นการพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจรากหญ้าได้
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวพันธมิตรเฟสแรกที่จะเข้ามาสนับสนุนร้านโดนใจ โดยมีทั้งสถาบันการเงินที่เข้ามาสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ผู้สนใจ ซึ่งมี 3 รายใหญ่ และพันธมิตรซัปพลายเออร์อีกประมาณ 30 รายใหญ่ ที่สนับสนุนด้านสินค้าทั้งหมดและเงื่อนไขต่างๆ โดยจากจำนวนผู้ประกอบการที่เข้าคิวรอ ส่วนใหญ่ 60-70% ต้องการเงินกู้ และอีก 30% จะมีความพร้อมด้านเงินทุน ขณะที่สินค้านั้น 95% จะเป็นสินค้าจากซัปพลายเออร์ และอีก 5% มาจากสินค้าชุมชน
โดยสถาบันการเงินและเงื่อนไข ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แบ่งเป็น 1. สินเชื่อฟื้นฟู วงเงินกู้ 1 แสน-1.5 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 5 ปี ปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี หรือฟรีดอกเบี้ย 6 เดือนแรก ปีที่ 3-5 ดอกเบี้ย 5% ต่อปี, 2. สินเชื่อปกติ วงเงินกู้ 1 แสน-1.5 ล้านบาท ไม่เกิน 7 ปี กรณีมีหลักประกัน MRR 6% ต่อปี และกรณีไม่มีหลักประกัน MRR บวก 1% ต่อปี ( 7%), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีสินเชื่อเอสเอ็มอีสมาร์ทช้อป วงเงิน 2 แสน-20 ล้านบาท ไม่เกิน 7 ปี และสินเชื่อคู่ค้าพารวย วงเงิน 2 แสน-5 ล้านบาท ระยะเวลาทบทวนปีต่อปี เงื่อนไขดอกเบี้ยตามที่ระบุ, ธนาคารออมสิน ตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมเป็นผู้ค้ำประกัน
ขณะที่ซัปพลายเออร์รายใหญ่เฟสแรกกว่า 30 ราย จากทัังหมด 3,000 กว่ารายที่บิ๊กซีทำการค้าด้วย จะรับผิดชอบสินค้า เช่น ยูนิลีเวอร์ เนสท์เล่ พีแอนด์จี โค้ก แฟนต้า เนสกาแฟ ไฮยีน บรีส ดาวน์นี่ นีเวีย แอทแทค เปา คอลเกต ไฟน์ไลน์ ดัชมิลล์ แลคตาซอย สิงห์ มาม่า ไวไว เบอร์ดี้ น้ำมันมรกต ข้าวเบญจรงค์ เด็กสมบูรณ์ เลย์ อิงอร ปินโต้ ข้าวตราแตงโม ซอสม้าบิน ขนมปูจ๋า ซีพี-เมจิ บีทาเก้น ขนมปังมิงโก้ และแหนมดอนเมือง เป็นต้น ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาไปสู่สิทธิพิเศษมากขึ้น เช่น จะมีสินค้าเฉพาะที่จำหน่ายในร้านโดนใจ หรือการทำโปรโมชันของซัปพลายเออร์กันเอง
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มร้านโดนใจมีจุดเด่นที่ผู้ประกอบการร้านค้าโชวห่วยสามารถเลือกลงทุนและสินค้าที่จำหน่ายได้เอง โดยไม่ต้องแบ่งผลกำไร ใช้งบลงทุนที่ไม่สูง ซึ่งรูปแบบของร้านแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ 1. บีเจซีจะใช้เครือข่ายของบิ๊กซีเป็นคนจำหน่ายสินค้าให้กับร้านค้าในชุมชน 2. นำเอาระบบ POS ที่พัฒนาขึ้นเข้าไปเสริมแกร่งธุรกิจให้กับร้านโชวห่วย ทั้งนี้ สำหรับการกระจายสินค้าร้านโดนใจจะใช้เครือข่ายสาขาของบิ๊กซีที่มีอยู่ทั่วประเทศเข้ามาเป็นเครือข่ายในการกระจายสินค้า
ขณะที่การปรับปรุงร้านค้านั้น หากผู้ประกอบการต้องการปรับโฉมหรือตกแต่งให้ดูทันสมัยสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของงบประมาณที่ตัวเองเห็นสมควร ร้านโดนใจหรือร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้รับความร่วมมือที่ดีจากทุกภาคส่วนและได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเจ้าของร้านโชวห่วยในพื้นที่ต่างๆ โดยในขณะนี้มีร้านโชวห่วยเข้าร่วมโมเดลธุรกิจร้านโดนใจแล้วกว่า 1,200 ร้านค้า ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการนำระบบ POS หรือระบบขายหน้าร้าน การให้คำปรึกษาทางธุรกิจจากทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเติมเต็มจะช่วยยกระดับและเสริมประสิทธิภาพในการขายสินค้าให้แก่ผู้ค้า เปลี่ยนโฉมร้านโชวห่วยให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค มากไปกว่านั้น การจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ยังสามารถนำไปขยายผลเพื่อวางแผนการตลาดในอนาคตให้สอดรับกับพื้นที่
“เราเชื่อมั่นว่า ร้านโดนใจ จะเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญให้กับการพัฒนาร้านโชวห่วยในประเทศไทยให้สามารถเติบโตและขานรับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย มากไปกว่านั้น การมีระบบบริหารจัดการที่ดีจะทำให้ร้านค้ารวมไปถึงผู้ประกอบการและลูกค้ามีความสะดวกสบาย ที่สำคัญจะทำให้ระบบนิเวศทางธุรกิจนับตั้งแต่ผู้ประกอบการ คู่ค้า และซัปพลายเออร์เจ้าของสินค้าที่เข้ามาร่วมอยู่ในอีโคซิสเต็มของโดนใจเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน โดยเป้าหมายระยะยาวต่อจากนี้วางเป้าเปิดร้านโดนใจให้เติบโตสู่ 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570 พร้อมกันนี้ยังพัฒนาโครงการโดนใจในเวียดนามด้วยการใช้ต้นแบบจากไทย ถือเป็นหนึ่งจุดหมายที่สำคัญในการนำสินค้าไทยไปขายยังภูมิภาคอาเซียน และสอดรับกับวิสัยทัศน์บีเจซีที่พร้อมเป็นผู้นำในตลาดโลกด้วยสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ” นางฐาปณีกล่าว