เพราะการตลาดเป็นเรื่องสำคัญ เหล่านักการตลาด เจ้าของกิจการหรือธุรกิจเองก็ต้องตั้งตัวรับการเปลี่ยนแปลงหลากหลายมิติทั้งในโลกธุรกิจ การตลาดที่รวดเร็วในทุกๆ ปี
สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยจึงทำการรวบรวม และสรุปออกมาเป็นจุดเปลี่ยนการตลาด สู่เทรนด์และกลยุทธ์การตลาดที่มาแรงในปี 2023 มี 4 แง่มุม ดังนี้
1. Perspective Changer จุดเปลี่ยนด้านวิสัยทัศน์
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องจุดเปลี่ยนทางวิสัยทัศน์ไว้ว่า ในยุคนี้ ทิศทางขององค์กรต้องย้อนกลับมาสู่หัวใจของผู้บริโภค ด้วยคำว่า C.A.R.E ทั้งในมุมของ “แคร์” ที่แปลว่า “ห่วงใย” หรือแปลอีกอย่างคือ
• C - Careful - ในโลกแห่งการแข่งขันที่ต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจ แบรนด์ต้องมีความระมัดระวัง ต้องคิดพิจารณาอย่างรอบด้านและรอบคอบ
• A - Authentic - เป็นตัวจริง ทำธุรกิจด้วยความชัดเจน โปร่งใส ตั้งใจ และทำจริง
• R - Resilience - มีความยืดหยุ่น พร้อมปรับตัว คือคุณสมบัติสำคัญของความอยู่รอด เพราะธุรกิจยุคใหม่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว
• และสุดท้ายคือ E- Empathy - ทำความเข้าใจลูกค้าทั้งภายนอกและภายในองค์กรด้วยหัวใจ
2. Practice Changer จุดเปลี่ยนด้านวิธีการ
ในโลกธุรกิจยุคใหม่ “ประสบการณ์ คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ” แต่ทั้งนี้ต้องเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์และตอบใจกลุ่มเป้าหมาย แบรนด์ยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จนั้นเน้น “การสร้างคุณค่า” ก่อน “การสร้างมูลค่า” เพราะเมื่อแบรนด์มีคุณค่าในใจของลูกค้า การเติบโตและผลลัพธ์ทางธุรกิจจะตามมาเอง ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ คุณนัทธมน พิศาลกิจวนิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของและผู้ก่อตั้งแบรนด์สุกี้ตี๋น้อย ได้มาแชร์เรื่องราวในหัวข้อ “Mission - Action - Success” ว่า หัวใจความสำเร็จของสุกี้ตี๋น้อย คือเรื่องของการปรับวิธีการ กล้าที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง ทำในสิ่งที่แบรนด์อื่นไม่ได้ทำ ทั้งในเรื่องการเสนอสิ่งดีๆ ให้ผู้บริโภค ในราคาที่จับต้องได้ และตอบใจลูกค้ารอบด้าน ทั้งเรื่องคุณภาพอาหารที่สูง คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา การบริการที่เน้นความเข้าใจและใส่ใจลูกค้า และความสะดวกสบาย ทั้งเรื่องร้านที่เทียบเท่าร้านใหญ่ในห้าง หรือที่จอดรถที่กว้างขวางสะดวกสบาย และเวลาที่เปิดดึกเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้า เพราะคุณนัทธมนกล่าวว่าเธอมองว่าตัวเองไม่ใช่ผู้คลั่งไคล้ธุรกิจร้านอาหาร แต่เป็น “นักแก้ปัญหา” ที่มุ่งบริหารธุรกิจที่สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าไปแล้วไม่ผิดหวัง
3. Platform Changer จุดเปลี่ยนด้านเทคโนโลยี
ผลสำรวจ “Marketing Trends : 2023 Way Forwards” ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นในกลุ่ม MAT CMO Council จากผู้บริหารการตลาด (CMO) ขององค์กรชั้นนำ 156 บริษัท ได้ระบุว่า ในปี 2566 ที่กำลังจะมาถึงนี้นักการตลาดให้ความสำคัญในการลงทุนกับ 1. คอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม 2. คอนเทนต์แพลตฟอร์ม 3. เพย์เมนต์แพลตฟอร์ม จริงอยู่ว่าทั้ง 3 แพลตฟอร์มนี้ถูกพัฒนาโดยเทคโนโลยีดิจิทัล แต่วัตถุประสงค์หลักของการใช้งานไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในโลกออนไลน์เท่านั้น เราก้าวเข้าสู่การตลาดยุคใหม่ ที่ไม่ใช่แค่โลกออนไลน์ ออฟไลน์ หรือ Virtual แต่เป็นการสร้าง จักรวาลของผู้บริโภค ที่เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ โดยมีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง และการเลือกใช้หรือพัฒนาต่อยอดแพลตฟอร์มต่างๆ ก็เพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างประสบการณ์สุดประทับใจไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้านั่นเอง
4. Planet Changer จุดเปลี่ยนด้านคุณค่าของธุรกิจต่อโลกและสังคม
ในปัจจุบันลูกค้าให้ค่าและให้ความรักกับแบรนด์ที่รักโลกและรักพวกเขา เราจึงเห็นเทรนด์การเติบโตของเรื่องกลยุทธ์การตลาดยั่งยืนที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น โดยการทำการตลาดด้วยความรับผิดชอบ เป็นมิตร และยั่งยืน จึงไม่ใช่แค่เรื่องการทำกิจกรรมผิวเผินชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็นการลงลึกถึงกระบวนการ (in process) และเปลี่ยนจากแค่การทำกิจกรรมเพื่อสังคม หรือที่เรียกว่า Corporate Social Responsibility (CSR) มาเป็นการสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าร่วมกัน หรือ Create Shared Value (CSV) ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าธุรกิจคู่สังคมอย่างจริงจัง โดย คุณประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร Director จาก Mini Thailand กล่าวบนเวทีสัมมนา ในหัวข้อ “Our Business, Our Planet, Our Future พลังบวกเปลี่ยนโลก พลังบวกเปลี่ยนผลลัพธ์” ว่า แม้ธุรกิจรถยนต์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างมลภาวะให้แก่โลก แต่ก็สามารถขับเคลื่อนทั้ง 3P คือ Profit (ผลกำไร) People (สังคมและผู้คน) Planet (สิ่งแวดล้อม) ไปด้วยกันได้ โดยเป็นการขับเคลื่อนทั้งระบบ เพื่อลดมลภาวะตลอดกระบวนการ โดยแบรนด์มินิมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดเพื่อลดมลภาวะแก่โลก แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การลด CO2 ตอนท้ายเท่านั้น แต่ต้องเริ่มตั้งแต่สายการผลิต การเลือกวัสดุต่างๆ ซึ่งในส่วนของมินิ 99% ของขยะที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตสามารถนำไปเข้าในกระบวนการรีไซเคิลได้ท้ังหมด ซึ่งนอกจากดีต่อสิ่งแวดล้อม ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจได้ด้วย
จากเทรนด์ความเปลี่ยนแปลงทั้ง 4 เราจะเห็นว่าแม้เทคโนโลยีจะก้าวไกลไปแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วศูนย์กลางของการตลาดคือผู้บริโภค เมื่อองค์กรนั้นมีทั้งความจริงใจ เข้าใจ และใส่ใจ ผลที่จะสะท้อนกลับมาย่อมเป็นผลเชิงบวกที่จะนำไปสู่ผลบวกทางธุรกิจอย่างแน่นอน