จับตาบอร์ดกกพ.วันที่ 21 ธ.ค.นี้เตรียมพิจารณาเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ(นำร่อง) 150 เมกะวัตต์แรกที่ 43 รายได้รับการคัดเลือกแล้วแต่ยังค้างเติ่งไม่สามารถลงนามซื้อขายไฟได้ เหตุมีผู้ร้องเรียนกับสำนักป.ป.ช. ซึ่งล่าสุดป.ป.ช. ได้แจ้งความเห็นว่าผู้ร้องเรียนไม่มีส่วนได้เสียกับโครงการ
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันที่ 21 ธ.ค. คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(บอร์ดกกพ.)จะมีการพิจารณาถึงแนวทางการเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก(โครงการนำร่อง) 150 เมกะวัตต์ หลังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(สำนักงานป.ป.ช.)ได้แจ้งมายังสำนักงานกกพ.กรณีการร้องเรียนผลการคัดเลือกโครงการดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐพ.ศ.2542 หรือเข้าข่ายการฮั้วประมูลฯ โดยมีความเห็นว่า ผู้ร้องเรียนไม่มีส่วนได้เสียกับโครงการดังกล่าวแต่อย่างใด
“ บอร์ดกกพ.น่าจะมีข่าวดีสำหรับเอกชน 43 รายที่ได้รับการคัดเลือกแล้วจากโครงการดังกล่าวแต่ด้วยมีการร้องเรียนทำให้ไม่สามารถลงนามได้ และทำให้สำนักงานกกพ.จำเป็นต้องรอความเห็นจากสำนักงานป.ป.ช.จึงต้องเลื่อนระยะเวลาลงนามซื้อขายไฟฟ้าออกไปถึง 5 ครั้ง”แหล่งข่าวระบุ
สำหรับการพิจารณาคัดเลือกโรงไฟฟ้าชุมเพื่อเศรษฐกิจฐานราก(โครงการนำร่อง)นั้น ทางกกพ.ได้ประกาศเมื่อ 23 ก.ย. 64 มีผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 43 ราย คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 149.50 เมกะวัตต์ (ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 3.1831 บาทต่อหน่วย) แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทชีวมวลจำนวน 16 ราย ปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 75.00 เมกะวัตต์ (ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 2.7972 บาทต่อหน่วย) และโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทก๊าซชีวภาพรวม 27 ราย ปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 74.50 เมกะวัตต์ (ค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 3.5717 บาทต่อหน่วย) ตามกรอบเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กำหนดเป้าหมายจากเชื้อเพลิงชีวมวล 75 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์