“ส.อ.ท.” ประเมินเบื้องต้นการผลิตรถยนต์ปี 2566 จะอยู่ระดับ 1.85-1.95 ล้านคันโดยขอดูตัวเลขเดือนธ.ค.อีกครั้งเพื่อสรุปอย่างเป็นทางการ ขณะที่ยอดจดทะเบียนอีวีป้ายแดงปี 66 คาดอยู่ที่ 25,000-35,000 คันยังโตต่อเนื่องจากอานิสงส์นโยบายรัฐหนุน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์รวมในเดือนพ.ย. 65 อยู่ที่ 190,155 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15% ซึ่งนับเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 44 เดือนหลังจากได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์(ชิป)เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ 11 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-พ.ย.65 ) การผลิตรถยนต์รวมอยู่ที่ 1,724,909 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20.95% ดังนั้นจากการประเมินเบื้องต้นตลอดทั้งปี 2565 การผลิตรถยนต์จะทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ระดับ 1,750,000 คันและมีโอกาสสูงจะทะลุ 1,800,000 คันซึ่งเป็นเป้าหมายแรกที่เคยตั้งไว้ ส่วนปี 2566 คาดว่าการผลิตน่าจะอยู่ระดับ1,850,000-1,950,000 คันแต่จะขอดูตัวเลขในเดือนธันวาคม 65 ก่อนสรุปตัวเลขอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ทั้งนี้การผลิตเพื่อส่งออก11เดือนแรก อยู่ที่ 951,551 คันคิดเป็น 55.17% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.26% การผลิตเพื่อจำหน่ายอยู่ที่ 773,358 คัน เท่ากับ 44.83% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 41.33% ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ 11เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 766,589 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.67% การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป อยู่ที่ 888,651 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.59% รวมส่งออกรถยนต์ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ 11 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่า 805,884.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.29%
ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมียอดจดทะเบียนใหม่(ป้ายแดง)ในประเทศ อยู่ที่ราว 25,000-35,000 คันจากที่ขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8,000 กว่าคันซึ่งถือเป็นตัวเลขโตแบบก้าวกระโดดจากมาตรการสนับสนุนการใช้จากภาครัฐและแนวโน้มตลาดของผู้ผลิตที่มีให้เลือกเพิ่มขึ้นจากค่ายใหญ่ระดับโลกโดยปี 2567 จะมีการตั้งฐานการผลิตรถยนต์อีวีในไทยเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการวิเคราะห์ว่าราคาอีวีในอีก 4 ปีข้างหน้าหรือปีค.ศ.2026 จะเท่ากับรถยนต์สันดาปภายในหรือต่ำกว่า
“ แร่ลิเทียมที่เป็นวัตถุดิบหลักการผลิตแบตเตอรี่สำหรับอีวียอมรับว่าขณะนี้ราคาค่อนข้างสูงมากแต่ล่าสุดมีเทคโนโลยีใหม่เป็นแบตเตอรี่ โซเดียมไอออนจากแร่เกลือหินซึ่งไทยมีแร่เกลือหินจำนวนมากอาจเอื้อให้ไทยเป็นฐานการผลิตแบตเตอรี่ชนิดใหม่ก็เป็นไปได้สูงซึ่งจะสนับสนุนอีวีไทยให้มีศักยภาพขึ้น”นายสุรพงษ์กล่าว