xs
xsm
sm
md
lg

ไทยเบฟตอกย้ำการดำเนินงานความยั่งยืน ได้รับคะแนนสูงสุด DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360-ไทยเบฟมุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทาง ล่าสุดคว้าคะแนนสูงสุด DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ลั่นเดินแผนความยั่งยืนต่อเนื่อง เปิดแผนปี66 ภายใต้พันธกิจ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต”

นางต้องใจ ธนะชานันท์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานความยั่งยืน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยเบฟยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยแนวทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืน คือ การสร้างความร่วมมือใน 3 ระดับ คือ ความร่วมมือภายในองค์กร, ความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรและคู่ค้า, ความร่วมมือกับผู้บริโภคและสาธารณชน

โดยแผนการดำเนินการพัฒนาด้านความยั่งยืน ของปี 2566 นั้น จะอยู่ภายใต้พันธกิจ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” (Creating and Sharing the Value of Growth) ที่จะดำเนินงานด้วย กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนเพื่อ “สรรสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน” (Enabling Sustainable Growth โดยมีเป้าหมายหลัก 5 ข้อ ได้แก่

ข้อ1.Net Zero Scopes 1 & 2 + คืนน้ำสู่ธรรมชาติ 100% (ของปริมาณน้ำในสินค้าสำเร็จรูป) ภายในปี 2583 ข้อ2.Net Zero Scope 3 ภายในปี 2593 ข้อ3.Employee engagement score มากกว่าหรือเท่ากับ 90% ภายในปี 2573 ข้อ4.ร้อยละ 80 ของยอดขายจากธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ต้องมาจากเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพภายในปี 2573 และข้อ5.เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็น 50% ภายในปี 2573 (ปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 43%)

นางต้องใจ กล่าวต่อว่า เป้าหมายการดำเนินงานในปี 2566 นั้น เบื้องต้นมองว่า จะต้องสร้างแผนงานให้ถึงเป้าหมายได้จริง รวมถึงต้องมีระบบติดตามความคืบหน้า นอกจากนี้จะให้ความสำคัญในเรื่องของการบริหารความเสี่ยงด้าน ESG ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) รวมพึงเน้นขยายผลไปให้ครบทุกองค์กรภายใต้กลุ่ม เช่น SABECO/ เมียนมาร์ นอกจากนี้พร้อมยกมาตรฐาน supplier ด้วย TSA หรือ Thailand Sustainability Academy (ทำร่วมกับ TSCN Founders: SCG/CPF/BBL/BJC/GC/TBC/TU)

ส่วนปี 2565 นี้ ไทยเบฟประสบความสำเร็จด้านความยั่งยืน ทำสิ่งที่บรรลุเป้าหมายแล้วหลายอย่าง เช่น 1.ติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของโรงงาน (Solar Rooftop) ในไทย 23 แห่ง 2.ขยายโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเป็น 7 แห่ง สำหรับผลิตพลังงานความร้อนจากการเผาน้ำกากส่าซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการกลั่นแอลกอฮอล์ เพื่อใช้เป็นพลังงานในโรงงานแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 3.เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนภายในองค์กรเป็นเกือบ 43% และ4.นำบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วจำนวนกว่า 80% กลับมาใช้ซ้ำและรีไซเคิล (Reuse and Recycle) เป็นต้น

จากความสำเร็จเหล่านี้ ล่าสุดส่งผลให้ไทยเบฟตอกย้ำความเป็นผู้นำเครื่องดื่มครบวงจรที่มั่นคงและยั่งยืนของภูมิภาคอาเซียน (Stable and Sustainable ASEAN Leader) ด้วยการครองคะแนนสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของโลก จากการประเมินของ S&P Global และยังเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (The Dow Jones Sustainability Indices - DJSI) มาอย่างต่อเนื่อง โดยจัดลำดับดัชนีตลาดเกิดใหม่ (DJSI Emerging Markets Index) เป็นปีที่ 7 และสมาชิกในกลุ่มดัชนีโลก (DJSI World Index) เป็นปีที่ 6

โดยได้รับคะแนนสูงสุดอันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2565) สะท้อนถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งของไทยเบฟ ในการเป็นต้นแบบองค์กรที่ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการใส่ใจด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและนำความภาคภูมิใจของคนไทยไปสู่ระดับโลก ไทยเบฟเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมาย PASSION 2025 ภายใต้พันธกิจ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” (Creating and Sharing the Value of Growth) เน้นย้ำกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนเพื่อ  “สรรสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน” (Enabling Sustainable Growth) ให้ครอบคลุมทุกมิติทั้งในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมการเกื้อหนุนสังคม และการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจในไทยและในภูมิภาคอาเซียน โดยมีเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2583


“ไทยเบฟมุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเป้าหมายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) โดยมีการดำเนินงานด้านสังคมใน 5 มิติหลัก ได้แก่การศึกษา สาธารณสุข กีฬา ศิลปะและวัฒนธรรม และการพัฒนาชุมชนและสังคม ที่ได้สร้างผลลัพธ์ความสำเร็จของการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม และมีการติดตามผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง “ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ไทยเบฟได้รับคะแนนสูงสุด DJSI อุตสาหกรรมเครื่องดื่มระดับโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

นอกจากนี้ยังมีในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากเป้าหมายและการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ไทยเบฟ ยังประกาศเป้าหมายการรักษาคุณภาพน้ำและการคืนน้ำสู่ธรรมชาติเป็นสัดส่วน 100% ของปริมาณน้ำที่ใช้ในการผลิตสินค้า ภายในปี 2573 และได้เริ่มดำเนินโครงการต่างๆ อาทิ การผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันดูแลและอนุรักษ์แหล่งน้ำ การดูแลชุมชนให้สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดเพื่อใช้ในการอุปโภคและบริโภค โครงการประเมินความยั่งยืนของน้ำผิวดินและน้ำใต้ดิน โครงการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และ การอนุรักษ์ ป่าต้นน้ำร่วมกับชุมชน

ส่วนในมิติการทำงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ไทยเบฟมีการนำบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มหลังการบริโภคมาพัฒนาเพิ่มมูลค่าและผลิตเป็นผ้าห่มในโครงการ “ไทยเบฟรวมใจ ต้านภัยหนาว” โดยไทยเบฟสามารถผลิต “ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก” ได้จำนวนมากถึงปีละ 200,000 ผืน ซึ่งช่วยให้สามารถ นำขยะจากบรรจุภัณฑ์กลับสู่ระบบรีไซเคิลได้สำเร็จแล้วจำนวน 22.8 ล้านขวดจากการดำเนินต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3

นอกจากนี้ ไทยเบฟ ได้ผนึกกำลังร่วมกับองค์กรภาคีธุรกิจชั้นนำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับสากล สร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในอีกหลายโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง อาทิ ภาคีเครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย (Thailand Supply Chain Network – TSCN) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการยกระดับความรู้และมาตรฐานการดำเนินงานของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในห่วงโซ่อุปทานของไทย

อีกทั้งไทยเบฟยังเป็นผู้ริเริ่มและผู้สนับสนุนหลักของรายการ Win Win WAR Thailand ซึ่งเป็นรายการเรียลิตี้ที่มุ่งเฟ้นหาและฟูมฟักนักธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อสังคมโดยมีการออกอากาศต่อเนื่องมาเป็นเวลา 4 ปี และมีการร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดงาน Sustainability Expo (SX) 2022 งานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความตระหนักรู้ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับประชาชนทั่วไปและเยาวชนในภูมิภาคอาเซียน นับเป็นงานที่ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่องค์กรระหว่างประเทศอย่าง United Nations Development Programme (UNDP) ไปจนถึงภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม อีกกว่า 100 องค์กร นับเป็นการสร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือในทุกระดับเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินงานภายใต้แนวทางของการพัฒนาที่ยั่งยืน

“การดำเนินงานที่ผ่านมาทั้งในการบริหารจัดการด้านธุรกิจ และการดำเนินโครงการต่างๆ ล้วนเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงศักยภาพทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและความพร้อมในทุกมิติของไทยเบฟที่จะเดินหน้า “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” สู่การเป็นต้นแบบและผู้นำด้านความยั่งยืนระดับโลก”.


กำลังโหลดความคิดเห็น