กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เผยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค. 65) แตะ 149.75 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 15.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นเกือบทุกกลุ่มเว้นน้ำมันก๊าด สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่องส่งผลให้การนำเข้าน้ำมันดิบแตะ 1.09 ล้านล้านบาทจากราคาโลกสูง บาทอ่อน จับตา ศก.โลกชะลอตัวอาจกดดันการใช้ในระยะต่อไป
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 อยู่ที่ 149.75 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.4 โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.6 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 88.2 น้ำมันเตาเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.5 LPG เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 และการใช้ NGV เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 การใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 ขณะที่การใช้น้ำมันก๊าดลดลงร้อยละ 10.9
ทั้งนี้ ภาพรวมความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เทศกาลวันหยุดยาว และราคาน้ำมันที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ COVID และเศรฐกิจโลกที่ชะลอตัวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ในระยะต่อไป
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.83 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.0 สำหรับการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.97 ล้านลิตร/วัน 15.95 ล้านลิตร/วัน และ 0.89 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 และเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 5.49 ล้านลิตร/วัน และ 0.53 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 72.20 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 18.6 การใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากมาตรการช่วยเหลือโดยตรึงราคาให้ไม่เกิน 35 บาท/ลิตร ของมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 20 มกราคม 2566 และการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63.27 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลพื้นฐานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.27 ล้านลิตร/วัน ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 2.46 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 มีปริมาณการใช้ 0.19 ล้านลิตร/วัน
สำหรับการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนตุลาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 70.36 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.8 โดยการใช้น้ำมันดีเซลในภาคไฟฟ้ามีปริมาณการใช้อยู่ที่ 7.92 ล้านลิตร/วัน
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 8.20 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 88.2 เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการบินและการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินจากต่างประเทศเดินทางเข้า-ออกไทยมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้การท่องเที่ยวและการเดินทางฟื้นตัว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลต่อความต้องการใช้เชื้อเพลิง
การใช้ LPG เดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 17.80 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 7.8 เนื่องจากการใช้ในทุกภาคเพิ่มขึ้น โดยภาคขนส่งอยู่ที่ 2.16 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.9 ภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2.04 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 ภาคปิโตรเคมีอยู่ที่ 7.88 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 และภาคครัวเรือนอยู่ที่ 5.71 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 การใช้ NGV เดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.39 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.7
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,013,964 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.6 โดยการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 945,562 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 109,354 ล้านบาท/เดือน หรือรวมที่ 1,093,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 91.7 เนื่องจากระดับราคาตลาดโลกที่เพิ่มสูง และค่าบาทอ่อนค่า สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 68,403 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 5,890 ล้านบาท/เดือน
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกอยู่ที่ 162,238 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 18.7 คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 20,880 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.2