ผู้จัดการรายวัน360 - ไฮเออร์ (Haier) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก ตอกย้ำการเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่คนทั้งโลกให้ความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง จัดงาน Haier Forward Together Super Conference 2023 เพื่ออัปเดตภาพรวมการดำเนินของไฮเออร์ในปีที่ผ่านมา พร้อมเปิดตัวเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ Haier Super Air พร้อมนำเสนอนวัตกรรมสุดล้ำ ให้เหล่าดีลเลอร์
และพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศ โชว์ยอดขายปี 65 โตสวนกระแสตั้งเป้าดันยอดขาย ปีละพันล้าน คาดยอดขายแตะ 3,000 ล้าน ภายในปี 2568
นายธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หนึ่งในวิสัยทัศน์ที่ “ไฮเออร์” ทั่วโลกมีร่วมกัน คือ การมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ซึ่งคำว่า “ดี” ในที่นี้ ไม่ใช่แค่คุณภาพสินค้าที่ดี แต่รวมไปถึงการนำเสนอสิ่งที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการให้กับลูกค้ามากที่สุด ดังนั้น ไฮเออร์ ประเทศไทย จึงไม่เคยหยุดที่จะพัฒนา คิดค้น และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตของคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งผลจากความทุ่มเท ทำให้ภาพรวมของสินค้าแบรนด์ไฮเออร์ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกถึง 13 ปีซ้อน
“ในปีที่ผ่านมา ไฮเออร์สามารถทำยอดขายในทุกกลุ่มสินค้าได้ไม่ต่ำกว่า 9 พันล้านบาท สวนทางกับภาพรวมตลาดที่ชะลอตัว โดยเฉพาะสินค้าหมวดเครื่องปรับอากาศที่ยังมียอดขายไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท เติบโตถึง 15 % จนสามารถทะยานขึ้นเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศที่มียอดขายสูงสุดอันดับ 2 ของตลาดในประเทศไทย”
สำหรับกลยุทธ์ในปี 2566 ไฮเออร์ เตรียมเปิดตัวเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ในคอนเซปต์ Haier Super Air ซึ่งทีมวิจัยและพัฒนาของไฮเออร์นำฟีดแบ็คจากลูกค้ามาปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดีขึ้น รวมถึงสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมความเย็นที่มุ่งเน้นตอบโจทย์การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดหวังว่า ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ใหม่นี้ จะเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยปลดล็อกการเติบโตครั้งใหม่ ให้ไฮเออร์ สามารถก้าวไปสู่ตำแหน่ง แบรนด์เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์อันดับ 1 ของประเทศไทย ภายในปี 2566
ด้าน หลี่ จิง ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ บริษัท ไฮเออร์
อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ 2565 เครื่องปรับอากาศ
เชิงพาณิชย์ของไฮเออร์ทำรายได้อยู่ที่ราว 500 ล้านบาท โดยบริษัทคาดการณ์เป้าหมาย 3 ปี (พ.ศ. 2566 – 2568) ผลักดันให้มีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ปีละ 1,000 ล้านบาท โดยในปี 2566 ตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ปี 2567 ตั้งเป้าไว้ที่ 2,000 ล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2568 จะมียอดขาย 3,000 ล้านบาท หรือคาดการณ์เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีนี้ถึง 6 เท่า
ทั้งนี้ หลี่ จิง ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ที่จะเปิดตัวในปี 2566 ทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก อย่าง Ceiling Type, Cassette Type และ Duct Type เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดกลางอย่าง MRV และขนาดใหญ่อย่าง Chiller ให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัส และสอบถามข้อมูลรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงแนะนำสินค้าไฮไลท์ ภายใต้คอนเซปต์ Super Air ที่มาพร้อมการสนับสนุนด้านการขาย และการบริการในทุก ๆ ช่องทางของไฮเออร์ รวมทั้งการรับประกันสินค้าสูงสุดถึง 10 ปี นอกจากนี้ ยังมีการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแบบ Non Inverter ที่มีน้ำยา R32 เพื่อช่วยลดมลภาวะให้กับโลกอีกด้วย
ภายในงาน ยังได้รับเกียรติจากเหล่าพาร์ตเนอร์ที่มอบความไว้วางใจ ใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ไฮเออร์ ได้แก่ Mr.DIY ที่มีการใช้เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ในหลายร้อยสาขาทั่วประเทศ และรวมทั้งมีการนำเสนอโครงการต่างๆ มากมายทั่วประเทศ ที่ได้ทำการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ไฮเออร์ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า สนามบิน โรงเรียน มหาวิทยาลัยต่างๆ โรงงาน อาคารสำนักงาน และที่อยู่อาศัย