การบินไทยเผยขนผู้โดยสารเพิ่มเฉลี่ย 18,000 คน/วันคาด พ.ย. ทะลุ 20,000 คน/วัน เปิดบินแล้ว 68 เส้นทาง (60% เทียบก่อนโควิด) หวังจีนเปิดปีหน้า ยอมรับปัญหาเครื่องบินมีจำกัด เร่งเช่า A350 เพิ่ม 6 ลำ เล็งปรับปรุงแอร์บัส 380 กลับมาใช้บริการ
วันนี้ (11 พ.ย. 2565) นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมใหญ่ประจำปี AAPA 66th Assembly of Presidents Bangkok 2022 ซึ่งในปีนี้บริษัท การบินไทยฯ เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระหว่างวันที่ 10-11 พ.ย. 2565 มีผู้เข้าร่วมประชุมจากสายการบินสมาชิกจำนวน 13 สายการบิน รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบิน จำนวนกว่า 120 คน ณ โรงแรมอวานี พลัส กรุงเทพฯ
นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์โควิดคลี่คลายแล้ว และส่งผลให้การเดินทางทางอากาศกลับมาอย่างรวดเร็ว ส่วนการบินของภูมิภาคแปชิฟิก ในภาพรวมอาจจะยังเติบโตช้าเมื่อเทียบกับฝั่งยุโรปและอเมริกา เนื่องจากประเทศจีนยังไม่เปิด แต่หากยกเว้นประเทศจีนจะพบว่าการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกลับมาค่อนข้างเร็ว หรือกลับมาทำการบินในเส้นทางที่เคยบินแล้วประมาณ 70-80% เมื่อเทียบกับปี 2562 ถือว่ามีแนวโน้มสดใส แต่ปัญหาที่พบ การรับส่งผู้โดยสารที่มีค่อนข้างแน่นเนื่องจากแต่ละสายการบินยังกลับมาทำการบินไม่ครบ 100% เท่าเดิม ดังนั้นทุกสายการบินเห็นตรงกันว่าต้องมุ่งกลับไปทำการบินในเส้นทางที่เคยให้บริการให้ได้มากที่สุดก่อนเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
สำหรับการบินไทย มีเป้าหมายที่จะกลับไปทำการบินในเส้นทางที่เคยให้บริการเดิมให้ได้มากที่สุด ปัจจุบันกลับมาให้บริการในเส้นทางหลักหมดแล้ว ส่วนเส้นทางเมืองรองอยู่ระหว่างรอเวลาเหมาะสมและความพร้อม โดยต้องขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องบินด้วยจากเดิมที่เคยมีเครื่องบินกว่า 100 ลำ ปัจจุบันมีเครื่องบินบริการอยู่ประมาณ 40-50 ลำ (ไม่รวมเครื่องบินของไทยสมายล์) และอยู่ระหว่างจัดหาเพิ่มเติมในรูปแบบการเช่า โดยล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้อนุมัติเช่าเครื่องบินแอร์บัส A350 จำนวน 2 ลำ อยู่ในขั้นตอนการรับมอบ และมีเครื่องบิน แอร์บัส A350 จำนวน 4 ลำ ที่ผ่านขั้นตอนความเห็นชอบจากบีโอไอแล้ว
ทั้งนี้ การบินไทยพยายามหาเครื่องบินที่มีความเหมาะสม ทันสมัยและดีที่สุดในรูปแบบการเช่ามาใช้ให้บริการเพื่อรองรับความต้องการผู้โดยสาร แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันการหาเครื่องบินค่อนข้างยาก เนื่องจากช่วงโควิดสายการบินมีการปรับลดหรือหยุดการให้บริการ แต่เมื่อโควิดคลี่คลายการเดินทางกลับมาทุกสายการบินต้องการใช้เครื่องบินเหมือนกัน
ดังนั้น การบินไทยจึงได้ทบทวนแผนการขายเครื่องบิน โดยมีการนำเครื่องบินที่มีสภาพดี ปรับปรุงกลับมาใช้งานอีกครั้ง เช่นเครื่องบินแอร์บัส A330 จำนวน 3 ลำ ที่มีการปรับปรุงเก้าอี้ใหม่ และนำกลับมาให้บริการในเส้นทางญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้โดยสารเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 6 ลำ ที่เดิมมีแผนขาย แต่ราคาขายไม่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาความคุ้มค่าในการปรับปรุงเพื่อนำกลับมาให้บริการอีกครั้ง เนื่องจากเครื่องบินถูกจอดไว้นาน โดยเส้นทางที่เคยทำการบินและมีกำไร เช่นลอนดอน, นาริตะ เป็นต้น
ด้านนายกรกฏ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัทการบินไทย กล่าวว่า แนวโน้มผู้โดยสารกลับมาค่อนข้างดี โดยในเดือนตุลาคมมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสารหรือ Cabin Factor เฉลี่ยที่ 81% โดยขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 18,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีเพียง 400 คน และ 12,000 คนต่อวัน ตามลำดับ และคาดว่าในเดือนพฤศจิกายนนี้ ไฮซีซันฤดูหนาวจะมีผู้โดยสารมากกว่า 20,000 คนต่อวัน ขณะที่รายได้จากผู้โดยสารต่อหน่วย (yield) กว่า 2 บาท ถือว่าสัญญาณดี ดีมานด์ความต้องการเดินทางชัดเจน
ปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินให้บริการจำนวน 44 ลำ ไทยสมายล์มี 20 ลำ มีอัตราการใช้งานเฉลี่ย 10 ถึง 12 ชั่วโมงต่อวัน โดยเปิดให้บริการแล้ว 68 เส้นทาง หรือเกือบ 60% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนมีโควิด (เดิมมีกว่า 80 เส้นทาง) รวม 713 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยเป็น ยุโรป แต่เส้นทางจำนวน 63 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในเอเชีย 44 เส้นทางจำนวน 402 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ออสเตรเลียสองเส้นทาง จำนวน 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และไทยสมายล์ 10 เส้นทางจำนวน 227 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งกลยุทธ์ในการทำการบิน จะเริ่มที่หนึ่งเที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในเมืองหลักๆทั้ง ลอนดอน แฟรงก์เฟิร์ต ซิดนีย์ เมลเบิร์น เนื่องจากเครื่องใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777 เป็นเครื่องลำใหญ่ที่สุดที่มีในขนาดนี้อาจจะมีความหนาแน่น
โดยบริษัทจะนำเครื่องบินมาใช้ให้เหมาะสมและเดินตามแผนฟื้นฟูให้ได้มากที่สุด โดยไทยสมายล์จะเป็นหลักในเส้นทางภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้การบินไทย และไทยสมายล์ มีความร่วมมือ เชื่อมโยงผู้โดยสารกันมากขึ้น ช่วงเช้าการบินไทยมี 8 เที่ยวบิน เข้ามาจากยุโรป และ 10 เที่ยวบินจากอินเดีย ไทยสมายล์ก็สามารถรับผู้โดยสารเชื่อมต่อเข้าสู่เส้นทางภายในประเทศได้อย่างดี และไทยสมายล์ยังคงให้บริการเส้นทางในภูมิภาค CLMV ที่ใช้เวลาทำการบินประมาณ 2-3 ชั่วโมง และเพิ่มการบินในเมืองรองประเทศอินเดีย เช่น พุทธคยา ลัคเนา ตามความเหมาะสม
รวมถึงรอประเทศจีนเปิดการบินเป็นปกติด้วย โดยขณะนี้การบินไทยทำการบินประเทศจีน ไปยังเมืองคุนหมิง เฉิงตูสองถึงสามเที่ยวบินต่อสัปดาห์ ส่วนใหญ่เป็นด้านพาโก้และการขนส่งผู้โดยสารจีนที่ตกค้าง โดยคาดการณ์ว่าประเทศจีนน่าจะเปิดการบินเป็นปกติหลังตรุษจีน โดยการบินไทยเตรียมทำการบินเข้าสู่เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ต่อไป