กรมเจ้าท่า ออกประกาศ ควบคุมความเร็วเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา เรือบรรทุกสินค้า ต้องมีเรือดึงท้ายกำลังเท่าเรือลากจูง เข้มมาตรการ ช่วงน้ำทะเลหนุนสูง 8-13 ต.ค.65
เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2565 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ได้ลงนาม ประกาศกรมเจ้าท่าที่ 231 / 2565 เรื่อง ให้ระมัดระวังการเดินเรือ ด้วย
กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์จะมีฝนตกหนักถึงในช่วงวันที่ 12 ตุลาคม 2565 บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ กอปรกับกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ มีประกาศ ฉบับที่ 49/2565 ประกาศ ณ วันที่ 6
ตุลาคม 2565 เรื่อง เฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา โดยติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีน้ำหลากจากทางตอนเหนือไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น และกรมชลประทานจำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตรามากกว่า 2,900-3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2565 ประกอบกับ
กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ได้คาดการณ์ระดับน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่ใกล้เคียงจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ โดยระดับน้ำจะมีความสูงประมาณ 1.90-2.20
เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ในช่วงวันที่ 8-13 ตุลาคม 2565
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือ กรมเจ้าท่า จึงขอให้ผู้ควบคุมเรือกลลำน้ำ ผู้ควบคุม
เรือลากจูง และเรือลำเลียงที่บรรทุกสินค้าในแม่น้ำ ปฏิบัติดังนี้
1. การลากจูงเรือลำเลียงที่บรรทุกสินค้าในแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องมีเรือดึงท้ายซึ่งมีกำลังของ
เครื่องจักรไม่น้อยกว่ากำลังเครื่องจักรของเรือลากจูง พร้อมจัดคนประจำเรือควบคุมเรือตลอดเวลา
2. ระมัดระวังเดินเรือจากปริมาณน้ำที่สูงขึ้น ขณะผ่านช่องลอดสะพาน และจากกระแสน้ำ
ที่ไหลเชี่ยวในระยะนี้
3. ควบคุมความเร็วเรือให้เหมาะสมและปลอดภัย โดยให้ระมัดระวังประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่ง
4. ตรวจสอบอุปกรณ์ช่วยการเดินเรือ อุปกรณ์สื่อสาร และอุปกรณ์ความปลอดภัยประจำเรือ
ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้และใช้การได้ปกติ
5. ถือปฏิบัติตามประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคและภูมิภาคสาขาในพื้นที่อย่างเคร่งครัด