เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการเพลงในช่วงที่ผ่านมาได้มากพอสมควร เมื่อ GMM Grammy (จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) เปิดตัวศิลปินบอยกรุ๊ปวง “PERSES” (เพอร์เซส) ออกสู่ตลาดภายใต้ค่ายเพลงใหม่ “G’NEST” (จีเนส)
ในฐานะที่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดเพลงของประเทศอยู่มากกว่า 50 เปอร์เซ็นในทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะเพลงร็อกและเพลงลูกทุ่ง ที่มีความแข็งแกร่งมาตลอดหลายปี ดังนั้นความเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงสร้างความสนใจให้กับทั้งแฟนเพลงและผู้เล่นในตลาด ว่านี่เป็นแค่อีกหนึ่งสีสันหรือจะเป็นแรงสั่นสะเทือนจากปรากฏการณ์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
นางสาวนรมน ชูชีพชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด จีเอ็มเอ็ม มิวสิก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากผลสำรวจตลาดเพลงไทยเราพบว่าคนไทยฟังเพลงไทย 78% โดยสัดส่วนของเพลงไทยจำแนกออกมาเป็นเพลงลูกทุ่ง 48%, Main Stream (เมนสตรีม) 52% โดย Pop Segment (สัดส่วนตลาดเพลงป๊อป) ครอง 32% และมีการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปี ทั้งศิลปินรุ่นใหม่ เพลงฮิตติดชาร์ต รวมทั้งกระแสในโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม
จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จึงได้โฟกัสในการพัฒนาศิลปินกลุ่มใหม่ที่เราเรียกว่า NEW GENERATION OF POP ขึ้นมาอย่างจริงจังในทุกมิติ และต่อเนื่องภายใต้มาตรฐานระดับสากล หรือ Global Standard (โกลบอลสแตนดาร์ด) เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับศิลปิน โดยหัวใจของการพัฒนาศิลปินกลุ่มนี้ เราได้มีการลงทุนในเรื่องหลักๆคือ
• การเทรนนิ่งไม่ต่ำกว่า 4,000 ชั่วโมง ภายใต้หลักสูตรเข้มข้นของ GMM Academy ก่อนที่จะได้เดบิวต์ออกมาเป็นศิลปิน
• มิวสิกโปรดักชั่น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราได้มีการลงทุนกับการทำเพลงในระบบ “Song Camp” ร่วมกับนักแต่งเพลงระดับโกลบอล ทีม Jam Factory ทั้งจากฝั่งยุโรปและเอเชีย ที่มีโปรไฟล์เคยทำงานให้ศิลปินชื่อดังระดับโลกอย่าง อย่าง Chris Brown, Pitbull, Will Smith, Sean Paul, NCT DREAM, NCT 127, SEVENTEEN, TXT, ENHYPEN เป็นต้น ซึ่งเป็นการทำงานแลกเปลี่ยนไอเดียระหว่างทีมงานอินเตอร์ และ Executive Producer คนไทย คือ ปณต คุณประเสริฐ วง Getsunova ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้เลือกสรรเพลงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับศิลปินและตลาด
• ในเรื่องภาพและวิดีโอ ที่เราลงทุนกับทีมโปรดักชั่นที่มีความเชี่ยวชาญ ได้รับการยอมรับและเป็นที่จับตามองระดับสากล ประเดิมมิวสิกวิดีโอแรก เราได้ร่วมงานและเรียนรู้จากทีมโปรดักชั่นจากประเทศเกาหลี FLIP EVIL ที่เคยสร้างผลงานมิวสิกวิดีโอให้กับศิลปินดังๆมากมาย รวมถึงทีม Make-up และ Hair stylist ในมิวสิกวิดีโอก็ เคยร่วมงานกับอีกหลายศิลปิน อาทิเช่น BTS, NCT, EXO, LE SSERAFIM, TWICE, THE BOYZ, MONSTA X, SEVENTEEN, Ji Chang-Wook เป็นต้น
• โดยงบลงทุนรวมสำหรับกลุ่มศิลปิน NEW GENERATION OF POP นี้ ประมาณ 200 ล้านบาท ตั้งแต่ในส่วน Recruit & Development จนถึงการโปรโมท
ในส่วนของค่ายเพลงใหม่ G’NEST (จีเนส) นั้น หทัย ศราวุฒิไพบูลย์ รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่าย-หน่วยงาน IDOL บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า “เราต้องการที่จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเจนเนอเรชั่นใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายทั้งรสนิยมการฟังเพลง การทำงานและไลฟ์สไตล์ มาร่วมกันแชร์และต่อยอดความฝันให้กลายเป็นความจริง เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนตลาดเพลงป๊อปในเมืองไทย ให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับระดับสากล”
โดยปัจจุบัน G’NEST มีศิลปินฝึกหัดอยู่ 30 คน ที่กำลังฝึกอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมตัวเดบิวต์ออกมาเป็นศิลปิน เช่นเดียวกับวง “PERSES” น้องๆทั้ง 5 คน ต่างผ่านการคัดเลือกและฝึกฝนมาอย่างหนัก ซึ่งตลอดช่วงเวลาการทำงาน ทั้งน้องๆและทีมงานต่างก็ร่วมมือกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความชอบและสไตล์ในเรื่องเพลงและการนำเสนอ โดยทางค่ายเปิดโอกาสให้กับศิลปินได้แสดงคาแรคเตอร์ในแบบของตัวออกมาทั้ง เรื่อง ความมั่นใจ ความคิด ความกบฏ แฟชั่น ที่สะท้อนความเป็นตัวแทนของเจนเนอเรชั่นของพวกเขาทั้ง 5 คน ออกมาโดยไม่มีกรอบใดๆ
นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของการขับเคลื่อน Soft Power ของไทยให้ถูกส่งออกไปอย่างแข็งแกร่ง
นางสาวนรมน ชูชีพชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด จีเอ็มเอ็ม มิวสิก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากผลสำรวจตลาดเพลงไทยเราพบว่าคนไทยฟังเพลงไทย 78% โดยสัดส่วนของเพลงไทยจำแนกออกมาเป็นเพลงลูกทุ่ง 48%, Main Stream (เมนสตรีม) 52% โดย Pop Segment (สัดส่วนตลาดเพลงป๊อป) ครอง 32% และมีการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปี ทั้งศิลปินรุ่นใหม่ เพลงฮิตติดชาร์ต รวมทั้งกระแสในโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม
จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จึงได้โฟกัสในการพัฒนาศิลปินกลุ่มใหม่ที่เราเรียกว่า NEW GENERATION OF POP ขึ้
นมาอย่างจริงจังในทุกมิติ และต่อเนื่องภายใต้มาตรฐานระดับสากล หรือ Global Standard (โกลบอลสแตนดาร์ด) เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับศิลปิน โดยหัวใจของการพัฒนาศิลปินกลุ่มนี้ เราได้มีการลงทุนในเรื่องหลักๆคือ
• การเทรนนิ่งไม่ต่ำกว่า 4,000 ชั่วโมง ภายใต้หลักสูตรเข้มข้นของ GMM Academy ก่อนที่จะได้เดบิวต์ออกมาเป็นศิลปิน
• มิวสิกโปรดักชั่น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราได้มีการลงทุนกับการทำเพลงในระบบ “Song Camp” ร่วมกับนักแต่งเพลงระดับโกลบอล ทีม Jam Factory ทั้งจากฝั่งยุโรปและเอเชีย ที่มีโปรไฟล์เคยทำงานให้ศิลปินชื่อดังระดับโลกอย่าง อย่าง Chris Brown, Pitbull, Will Smith, Sean Paul, NCT DREAM, NCT 127, SEVENTEEN, TXT, ENHYPEN เป็นต้น ซึ่งเป็นการทำงานแลกเปลี่ยนไอเดียระหว่างทีมงานอินเตอร์ และ Executive Producer คนไทย คือ ปณต คุณประเสริฐ วง Getsunova ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้เลือกสรรเพลงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับศิลปินและตลาด
• ในเรื่องภาพและวิดีโอ ที่เราลงทุนกับทีมโปรดักชั่นที่มีความเชี่ยวชาญ ได้รับการยอมรับและเป็นที่จับตามองระดับสากล ประเดิมมิวสิกวิดีโอแรก เราได้ร่วมงานและเรียนรู้จากทีมโปรดักชั่นจากประเทศเกาหลี FLIP EVIL ที่เคยสร้างผลงานมิวสิกวิดีโอให้กับศิลปินดังๆมากมาย รวมถึงทีม Make-up และ Hair stylist ในมิวสิกวิดีโอก็ เคยร่วมงานกับอีกหลายศิลปิน อาทิเช่น BTS, NCT, EXO, LE SSERAFIM, TWICE, THE BOYZ, MONSTA X, SEVENTEEN, Ji Chang-Wook เป็นต้น
• โดยงบลงทุนรวมสำหรับกลุ่มศิลปิน NEW GENERATION OF POP นี้ ประมาณ 200 ล้านบาท ตั้งแต่ในส่วน Recruit & Development จนถึงการโปรโมท
ในส่วนของค่ายเพลงใหม่ G’NEST (จีเนส) นั้น หทัย ศราวุฒิไพบูลย์ รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่าย-หน่วยงาน IDOL บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า “เราต้องการที่จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเจนเนอเรชั่นใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายทั้งรสนิยมการฟังเพลง การทำงานและไลฟ์สไตล์ มาร่วมกันแชร์และต่อยอดความฝันให้กลายเป็นความจริง เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนตลาดเพลงป๊อปในเมืองไทย ให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับระดับสากล”
โดยปัจจุบัน G’NEST มีศิลปินฝึกหัดอยู่ 30 คน ที่กำลังฝึกอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมตัวเดบิวต์ออกมาเป็นศิลปิน เช่นเดียวกับวง “PERSES” น้องๆทั้ง 5 คน ต่างผ่านการคัดเลือกและฝึกฝนมาอย่างหนัก ซึ่งตลอดช่วงเวลาการทำงาน ทั้งน้องๆและทีมงานต่างก็ร่วมมือกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความชอบและสไตล์ในเรื่องเพลงและการนำเสนอ โดยทางค่ายเปิดโอกาสให้กับศิลปินได้แสดงคาแรคเตอร์ในแบบของตัวออกมาทั้ง เรื่อง ความมั่นใจ ความคิด ความกบฏ แฟชั่น ที่สะท้อนความเป็นตัวแทนของเจนเนอเรชั่นของพวกเขาทั้ง 5 คน ออกมาโดยไม่มีกรอบใดๆ
นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของการขับเคลื่อน Soft Power ของไทยให้ถูกส่งออกไปอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน