ผู้จัดการรายวัน360 – ซีอาร์ซี เดินหน้าปูพรมรุกธุรกิจเฮลท์แอนด์เวลเนส รับตลาดพุ่งถึง 2 แสนล้านบาท ชี้เทรนด์เติบโตดี สร้างทีมบียูใหม่ นำร่องแล้วปั้น 3 แบรนด์ค้าลีกหลักลุยเต็มที่ “ท็อปส์ วีต้า-ท็อปส์แคร์-เพ็ทแอนด์มี
นายไท จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือซีอาร์ซี/CRC เปิดเผยว่า ทางซีอาร์ซี เล็งเห็นเทรนด์ตลาดรวมสุขภาพและความงามหรือ เฮลท์แอนด์เวลเนส (Health & Wellness) ในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงของการระบาดของโควิด-19ที่ทำให้ตลาดวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเติบโตด้วย โดยซีอาร์ซีเห็นโอกาสการธุรกิจนี้ จึงต่อยอดด้วยการวางงบประมาณรวมเบื้องต้น 200 ล้านบาท ในช่วงปี2565นี้กับปีหน้า เพื่อเปิดตัวร้าน “ท็อปส์วีต้า” ร้านจำหน่ายวิตามินและเสริมอาหาร
ดร.มลฤดี เลิศอุทัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่าย New Business, Health & Wellness กล่าวว่า ตลาดรวมเฮลท์แอนด์เวลเนส(H & W )ในไทยมีมูลค่ามากถึง 2 แสนล้านบาท เติบโต 8% ขณะที่ตลาดรวมวิตามินและเสริมอาหาร เป็นส่วนหนึ่งของตลาดเฮลท์ฯ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท เติบโต 10% ต่อปี ซึ่งจากการเติบโตดีของตลาดนี้เอง ทางซีอาร์ซีจึงได้รุกตลาดอย่างจริงจัง ด้วยการตั้ง เฮลท์แอนด์เวลเนส (H & W ) ถือเป็นอีกหนึ่งบิสซิเนสยูนิตหรือบียูใหม่ล่าสุดของซีอาร์ซี ที่ตั้งขึ้นมาปีที่แล้วเพื่อรุกตลาดเกี่ยวกับสุขภาพโดยเฉพาะ เพื่อเข้ามาเติมเต็มระบบอีโคซิสเต็มของซีอาร์ซีในธุรกิจค้าปลีกให้ครบวงจร
ปัจจุบันเซ็นทรัลรีเทลมีธุรกิจในบียูนี้แล้ว 3 แบรนด์ร้านค้าปลีก คือ 1. ท็อปส์วีต้า เน้นจำหน่าย วิตามินและเสริมอาหาร เริ่มปีนี้, 2. ท็อปส์ แคร์ เหมือนร้านขายยา และ 3.เพ็ท แอนด์ มี ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง และยังอยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจใหม่อื่นในเครือข่ายเฮลท์ฯอีกเช่นกันที่จะทยอยเปิดตัวต่อไป
แนวทางของทั้งสามแบรนด์ดังกล่าวจะเน้นเปิดในเครือข่ายของเซ็นทรัล โรบินสัน เป็นหลักก่อน โดยเฉพาะการเปิดในพื้นที่ของท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตและเซ็นทรัลฟูดฮอล์เป็นหลัก ก่อนที่อนาคตจะขยายไปยังช่องทางทำเลอื่นๆที่่นอกเครือเซ็นทรัลและสแตนด์อโลนด้วย
ตามแผนงานภายในปี 2567 จะต้องเปิดร้านท็อปส์ วีต้า ทุกโมเดลทั้งขนาดใหญ่ 30 ตารางเมตรขึ้นไป และขนาดเล็ก 4 ตารางเมตร ให้ได้ประมาณ 150 สาขา ทั่วประเทศกระจายอยู่ในท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตและท็อปส์แคร์ และมียอดขายมากกว่า 1,500 ล้านบาท ภายในปี 2570 ปัจจุบัน ท็อปส์ วีต้า เปิดบริการแล้วมากกว่า 20 สาขา โดยเปิดเป็นโซนในซูเปอร์มาร์เก็ต อาทิ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาเซ็นทรัล ชิดลม, สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเซ็นทรัล พระรามเก้า เป็นต้น และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 40 สาขา ซึ่งช่องทางขายนอกจากร้านออฟไลน์ แล้วยังมีช่องทางออนไลน์ด้วย เริ่มเมื่อวันที่ 7 กันยายนนี้ ทั้งเว๊บไซต์ แชทแอนด์ช้อปผ่านไลน์ออฟฟิศเชียล ส่วนอนาคตจะขยายไปยังช่องทางมาร์เก็ตเพลซอื่นด้วย
ส่วนแบรนด์ ท็อปส์ แคร์ เริ่มเมื่อปีที่แล้ว เปิดบริการแล้ว 4 สาขา คือ ที่แจ้งวัฒนะ พระรามสอง พัฒนาการ เอกมัย ในท็อปส์มาร์เก็ต และคาดว่าภายในสิ้นปีนีจะเปิดอีก 12 สาขา
ขณะที่แบรนด์ เพ็ท แอนด์ มี เริ่มเมื่อกันยายนปีที่แล้ว เปิดแล้ว 2 สาขา คือ เซ็นทรัลเวสท์เกต และวงศ์สว่าง และจะเปิดอีก 2 สาขาปีนี้
ดร.มลฤดี กล่าวว่า ท็อปส์ วีต้า มีจุดเด่นคือ 1.ผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ของวิตามินและเสริมอาหารเสริม เช่น ผลิตภัณฑ์เพื่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงสุขภาพผิวและผม ควบคุมรูปร่างและลดน้ำหนัก รวมไปถึงเสริมอาหารจากสมุนไพร มากกว่า 1,000 รายการ จากแบรนด์ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะแบรนด์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟ เช่นจากประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น แบรนด์ Now และ Life Extension เป็นต้น
2. เป็นตัวแทนในการนำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศอย่างเป็นทางการ เช่น แบรนด์ Springleaf จากประเทศออสเตรเลีย, แบรนด์ DHC จากประเทศญี่ปุ่น, และแบรนด์ Nature’s Truth จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
3. เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เน้นวิตามินและเสริมอาหารแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ Omnichannel เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการซื้อสินค้าวิตามินและเสริมอาหาร
4. การนำเสนอคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มจากแพทย์ เภสัชกร และผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักโภชนาการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจตามเป้าหมายสุขภาพ