xs
xsm
sm
md
lg

ทั่วโลกรัดเข็มขัด! กดปุ่มประหยัดสู้วิกฤตพลังงาน เปิดหลัก “4 ป.” และ “3 ช.” ร่วมใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ถอดบทเรียนวิกฤตพลังงานโลก ส่องวิธีและมาตรการรับมือฝ่าวิกฤตของประเทศต่างๆ เพื่อเป็นบทเรียนสำคัญที่นำมาประยุกต์ใช้ในการปรับตัวและเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมชวนคนไทยใช้หลัก “4 ป.” และ “3 ช.” เพื่อใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและประหยัดซึ่งทำได้ง่ายและเกิดประโยชน์โดยตรงต่อตัวเอง

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของพลังงานที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกในเวลานี้ หนึ่งในมาตรการที่หลายๆ ประเทศนำมาใช้ คือการใช้ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดโดยไม่ก่อให้เกิดความสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น

ไล่ตั้งแต่ประเทศออสเตรเลียที่ทางรัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนในเมืองนิวเซาท์เวลส์ ลดการใช้ไฟฟ้าตั้งแต่เวลา 18.00-20.00 น. หากเป็นไปได้ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟฟ้าเยอะซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้ไฟฟ้าดับ โดยมาตรการนี้นอกจากเรื่องประหยัด แต่ยังทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าดับทั่วเมืองได้

ในส่วนของประเทศสเปนก็มีการขอความร่วมมือประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลา 22.00 น.เป็นต้นไป เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นที่รัฐบาลได้ขอความร่วมมือจากบริษัทและประชาชนทุกครัวเรือนให้ช่วยกันประหยัดไฟ เพราะอาจเกิดปัญหาขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่ญี่ปุ่นได้มีมาตรการประหยัดไฟทั่วประเทศเป็นระยะเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา


จากประสบการณ์จริงของคนไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นอย่าง “ปนิธ อดุลศิริสวัสดิ์” Postdoctoral Researcher ได้บอกเล่าถึงการใช้ชีวิตที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนในด้านการใช้พลังงาน โดยเปรียบเทียบให้เห็นว่าเมื่อก่อนนี้เราอาจจะได้ยินว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไว แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเท่านั้น เพราะระเบียบโลก สงคราม จะกระทบเรารวดเร็วมาก ดังนั้น จากนี้ไปเราจึงควรมีแผนระยะสั้น ระยะยาว และเตรียมความพร้อมให้ดี ทั้งนี้ก็เพื่อให้เราได้มีพลังงานใช้สอยอย่างยั่งยืน

ท่ามกลางผลกระทบด้านพลังงานซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อีกหนึ่งประเทศที่เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ก็คือ เยอรมนี นับตั้งแต่สหภาพยุโรปคว่ำบาตรรัสเซีย เยอรมนีได้ปรับลดการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียเหลือเพียง 35% จากเดิม 55% ขณะเดียวกันก็ได้อนุมัติมาตรการประหยัดพลังงานในช่วงฤดูหนาว โดยขอให้ปิดเครื่องทำความร้อนในอาคารต่างๆ ที่ไม่มีการใช้งาน

นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 เป็นต้นไป อาคารสาธารณะทุกแห่ง ยกเว้นโรงพยาบาล จะต้องจำกัดอุณหภูมิเครื่องทำความร้อนที่ 19 องศาเซลเซียสเหมือนกับประเทศอิตาลี และที่สำคัญยังมีการเริ่มใช้พลังงานถ่านหินสำหรับรถไฟแทนการใช้น้ำมันด้วย

ทั้งนี้ จากคำบอกเล่าของ “โสภาพร ควร์ซ” ประธานสมาคมธารา และเจ้าของเพจ “เรื่องเล่าจากหย่งศรี” ซึ่งพักอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนี สรุปแนวทางการใช้ชีวิตในยุคประหยัดไว้ 3 ข้อด้วยกัน นั่นก็คือ

1. Be Prepared วิกฤตพลังงานเกิดขึ้นทั่วโลก เราเองต้องเตรียมตัว เตรียมพร้อมได้แล้ว

2. Be Proactive แม้รัฐบาลจะมีนโยบายช่วยเหลือในหลายๆ ส่วน แต่อะไรที่เราทำได้ก็ต้องรีบทำ เริ่มประหยัด เริ่มวางแผน

3. Be Kind ทุกคนต่างเจอวิกฤตเหมือนกัน มีเมตตา ช่วยเหลือกัน จะได้พ้นวิกฤตไปด้วยกัน

และในขณะที่ประเทศฝรั่งเศสออกมาตรการห้ามเปิดใช้ป้ายโฆษณาที่ใช้ไฟฟ้าส่องสว่างในทุกเมืองที่มีประชากรน้อยกว่า 8 แสนคน ระหว่างช่วงเวลา 01.00-06.00 น. ... หลายๆ เมืองของประเทศจีนก็มีมาตรการคล้ายๆ กัน เช่นที่เมืองเฉิงตูซึ่งมีการรณรงค์ให้ประชาชนปิดไฟตกแต่งภูมิทัศน์นอกอาคาร โฆษณานอกอาคาร ป้ายชื่อของอาคารต่างๆ เพื่อประหยัดกระแสไฟฟ้า หรืออย่างนครฉงชิ่งก็ให้ศูนย์การค้าจำกัดเวลาเปิดปิดเหลือเพียง 16.00-21.00 น. เพื่อประหยัดไฟฟ้า


นอกจากนี้ ประเทศจีนยังมีการจัด “สัปดาห์ประหยัดพลังงานแห่งชาติ 2022” ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีที่จัดขึ้นตั้งแต่ปี 1991 เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมวิถีชีวิตอันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

จากมาตรการรับมือวิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลกดังที่กล่าวมา ในส่วนของประเทศไทยเราเองซึ่งก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน และจากสถานการณ์ดังกล่าว หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่างก็เร่งปรับแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง ควบคู่กับการดำเนินมาตรการประหยัดอย่างเข้มข้น เช่น การตั้งเป้าให้หน่วยงานภาครัฐลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันลง 20% ซึ่งหน่วยงานภาครัฐต่างก็ขานรับมาตรการลดใช้พลังงานอย่างเต็มที่

ในส่วนของประชาชน เมื่อเร็วๆ นี้มีแคมเปญโฆษณาชิ้นหนึ่งซึ่งต้องบอกว่าน่าสนใจมาก เพราะพูดเรื่องการประหยัดพลังงานได้เข้าใจง่ายและเริ่มต้นทำได้ทันที จากจุดเล็กๆ ที่เราอาจจะหลงลืม แต่ทำแล้วดีต่อตัวเองแน่นอน แคมเปญนี้มีชื่อว่า “ทราบแล้วเปลี่ยน” มีคีย์เวิร์ดสำคัญที่น่าสนใจ คือ “4 ป.” และ “3 ช.”

สำหรับ “4 ป.” นั้นเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วย 1. ปิด คือ ปิดไฟทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งาน 2. ปรับ คือ ปรับเครื่องอากาศให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม เช่น ปรับที่อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส แล้วเปิดพัดลมตั้งพื้น จะช่วยให้ประหยัดได้มาก 3. ปลด คือปลดหรือถอดปลั๊กทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งาน และ 4. เปลี่ยน ได้แก่ เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือใช้หลอด LED เป็นต้น


ส่วน “3 ช.” เกี่ยวกับการใช้รถเพื่อเซฟน้ำมัน ประกอบด้วย 1. เช็ก คือตรวจเช็กรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่กินน้ำมัน 2. ชัวร์ คือ ชัวร์ในเรื่องของเส้นทางที่จะไปเพื่อจะได้ไม่อ้อมหรือไกลเกินจำเป็น ซึ่งก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้ และ 3. ใช้ หมายถึงใช้รถสาธารณะบ้างเป็นบางครั้งซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานน้ำมันได้


ขณะที่วิกฤตพลังงานกำลังส่งเสียงคำรามไปทั่วโลก เราสามารถช่วยกันประหยัดพลังงานได้ โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ ใกล้ตัว และที่สำคัญ ถ้าทำตามแนวทาง “4 ป.” และ “3 ช.” ผลดีที่จะเกิดขึ้นแบบรวดเร็วและเห็นได้ชัดก็คือ ความประหยัดที่เกิดประโยชน์ต่อตัวเราเองโดยตรง


กำลังโหลดความคิดเห็น